จับหนุ่มขับกระบะตามสาว อ้างเมา-หน้าคล้ายแฟนเก่า!?

ความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.พิมพ์จุฑา (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี และหลานสาววัย 16 ปี ถูกชายวัยรุ่นขับรถกระบะไล่ตามจะเข้าหมู่บ้านด้วย แต่ผู้เสียหายจอดรถที่ป้อมร้องให้ รปภ.ช่วยเหลือพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชายคนดังกล่าวฉุนจัดขยับรถชนท้ายก่อนจะหลบหนีไปเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จนครอบครัวผู้เสียหายได้นำคลิปเหตุการณ์ที่ถ่ายไว้ลงโพสต์หาเบาะแสรถกระบะของชายหนุ่มที่ก่อเหตุดังกล่าว

ความคืบหน้าในคดีดังกล่าว พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.ปลายบาง จ.นนทบุรี กล่าวเปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุใช้รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ขอ 2684 ชลบุรีตามที่ผู้เสียหายระบุไว้ ทำให้ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือนายนราธิป สีเทา อายุ 26 ปี ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุในคลิปตามที่หญิงสาวผู้เสียหายได้ถ่ายบันทึกเหตุการณ์ไว้จริง จึงได้นัดหมายให้นายธนาธิป เดินทางมาพบเพื่อทำการสอบสวน

ต่อมาเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 2 พ.ย.63 นายนราธิป สีเทา อายุ 26 ปี ได้เดินทางมาพบ พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.ปลายบาง เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนดังกล่าว โดยมี น.ส.พิมพ์จุฑา ผู้เสียหายพร้อมครอบครัวเดินทางมาดูตัวผู้ก่อเหตุด้วย

โดยนายนราธิป สีเทา ผู้ก่อเหตุให้การว่า ในคืนดังกล่าวตนได้ไปดื่มสุราในงานเลี้ยงรุ่นแห่งหนึ่งมา จากนั้นได้ขับรถกระบะคันดังกล่าววนมาส่งเพื่อนในซอยศรีประวัติ หลังจากส่งเพื่อนลงเสร็จแล้ว ระหว่างนั้นตนเห็นรถกระบะของ น.ส.พิมพ์จุฑา ผู้เสียหายขับผ่านมา ซึ่งรถกระบะของ น.ส.พิมพ์จุฑานั้นคล้ายกับรถอดีตแฟนเก่าตนที่เลิกรากันไปประกอบกับความเมา ตนจึงคิดว่าเป็นรถของแฟนเก่า จึงตัดสินใจขับรถไล่ตามไปจนถึงหน้าป้อมยามของหมู่บ้าน จากนั้นจึงลงจากรถไปเคาะกระจกเพื่อจะขอคุยด้วย แต่เมื่อก้มไปมองผ่านกระจกจึงรู้ว่าภายในรถไม่ใช่แฟนเก่าตน จึงตัดสินใจขับรถหนีออกไปตามเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิป ตนขอยืนยันและสาบานต่อหน้าพระเลยว่า ที่ขับรถตามไปตลอดทางจนถึงป้อมยามหน้าหมู่บ้านนั้น ตนไม่ได้คิดอะไรไม่ดีหรือเป็นมิจฉาชีพ แค่คิดว่าเป็นรถของแฟนเก่าเลยขับตามไปเพื่อหวังจะคุยด้วย

นายนราธิป กล่าวอีกว่า หลังจากขับรถออกมาจากป้อมยามแล้ว ตนก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังร้านเหล้าแถวบางใหญ่ซิตี้ จากนั้นภาพก็ตัดไป จำอะไรไม่ได้เลย มารู้ตัวอีกทีรถกระบะก็เสียหลักพุ่งขึ้นฟุตบาทจนได้รับความเสียหายไปแล้ว จากนั้นเมื่อกลับมาบ้าน ก็มีเต้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์ม่แจ้งให้เดินทางมาที่โรงพักในวันนี้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ตนจึงเดินทางมาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและ น.ส.พิมพ์จุฑา ผู้เสียหาย เพื่อยอมรับผิดและขอโทษ พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับ น.ส.พิมพ์จุฑา

ภายหลังจากที่นายนราธิปสำนึกผิดและยกมือไหว้ขอโทษ น.ส.พิมพ์จุฑา ผู้เสียหายแล้ว นายนราธิปยินยอมที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถและค่าทำขวัญ 3 หมื่นบาท ทาง น.ส.พิมพ์จุฑา จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.จุฑาทิพย์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว เพราะหลังเกิดเหตุแล้ว ตนยอมรับว่าขวัญเสียเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่า ตนที่ก่อเหตุเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร และตนยังต้องทำงานซึ่งก็จะมีบ่อยครั้งที่ต้องขับรถกลับบ้านในตอนดึก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาได้ ตนคงจะเสียขวัญไปอีกนาน ซึ่งเมื่อนายนราธิปผู้ก่อเหตุสำนึกผิดขอโทษและพร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้แล้ว ตนกับครอบครัวก็ไม่ติดใจเอาความอะไร เพียงอยากตักเตือนว่าอย่าไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับใครในลักษณะนี้อีก

พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.ปลายบาง กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายนราธิปแล้ว พบว่านายนราธิปก่อเหตุไปด้วยความเข้าใจผิดบวกกับความมึนเมาด้วยฤทธิ์สุรา แม้ว่านายนราธิปจะสามารถตกลงยอมความกับผู้เสียหายได้แล้ว แต่ในทางตำรวจนั้น ตนได้สั่งปรับเป็นเงิน 1 พันบาท ในข้อหาทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามความผิดที่ปรากฏ

Powered by Froala Editor