Football
โฟเด้นซัดชัย! แมนซิตี้หั่นไบรท์ตัน1-0 เฮ4เกมติด ทะยานขึ้นท็อปโฟร์

โฟเด้นซัดชัย! แมนซิตี้หั่นไบรท์ตัน1-0 เฮ4เกมติด ทะยานขึ้นท็อปโฟร์

ฟิล โฟเด้น ทำประตูเดียวในเกมนี้ ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเอาชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ส่งให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บชัยชนะเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตารางชั่วคราว ขณะที่ "นกนางนวล" อยู่ที่ 17

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "นกนางนวล" ไบรท์ตัน ลงทำการแข่งขันเวลา 01.00 น.ประจำวันพุธที่ 13 มกราคม 2564


เริ่มเกมมาทั้งสองทีมต่างพยายามสร้างสรรค์เกมรุกของตัวเอง แต่ยังไม่มีทีมใดมีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอกับ ไบรท์ตัน อยู่ 0-0


นาทีที่ 14 เควิน เดอ บรอยน์ จ่าบอลให้ อิลคาย กุนโดกัน ก่อนล็อคบอลหลบกองหลังทีมเยือน แล้วจ่ายบอลทะลุช่องให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลหลุดเดี่ยว ก่อนตัดสินใจยิงแต่บอลไปเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ ก่อนที่กองหลังไบรท์ตัน จะเคลียร์บอลออกมาได้


เกมดำเนินถึงนาทีที่ 26 อิลคาย กุนโดกัน ไหลบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนได้จังหวะวางบอลจากหน้าเขตโทาออกไปด้านขวาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลก่อนยายามจะยิงแต่บอลหลุดออกหลังไป


นาทีที่ 28 เควิน เดอ บรอยน์ พยายามวางบอลยาวขึ้นหน้าก่อนโดน อดัม เว็บสเตอร์ สกัดบอลก่อนเป็น โรเบิร์ต ซานเชซ ที่รับบอลได้ แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นการส่งคืนหลัง ทำให้ เจ้าถิ่นได้ฟรีคิก 2 จังหวะ ในเขตโทษ ก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่เขี่ยบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่ยิงไปติดกองหลังทีมเยือน


นาทีที่ 40 เอแดร์ซอน ออกบอลเร็วให้ เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลขึ้นมาก่อนจ่ายออกด้านขวาให้ ฟิล โฟเด้น แล้วพยายามเลี้ยงบอลก่อนจ่ายต่อมาให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้จังหวะยิงแต่ยังไปติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ ออกหลังไป


หลังจากนั้นอีก 4 นาที เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ ฟิล โฟเด้น ได้จังหวะจับบอลก่อนเลี้ยงหลบกองหลังทีมเยือน 2 คน ก่อนยิงบอลส่งเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ ไบรท์ตัน 1-0


ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติม หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ ไบรท์ตัน 1-0


เริ่มครึ่งหลังมาทั้งสองทีมต่างผลัดกันทำเกมรุกเพื่อหวังทำประตู แต่ยังไม่มีทีมไหนมีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง ทำให้ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ ผ่านไปแล้ว 55 นาที สกอร์ยังคงเดิมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ ไบรท์ตัน 1-0


นาทีที่ 58 โรดรี้ ได้จังหวะวางบอลให้ ริยาด มาห์เรซ ได้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษทางด้านขวา ก่อนตัดสินใจยิงบอลหลุดเสาออกไป


หลังจากนั้นอีก 1 นาที ริยาด มาห์เรซ ให้บอลไปยัง อิลคาย กุนโดกัน ได้หลุดเข้าในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงบอลไปติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ มาเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้จังหวะยิงแต่บอลไปชนคาน ก่อนที่กองหลังทีมเยือนจะสกัดบอลออกมาได้


นาทีที่ 65 จากจังหวะที่เจ้าถิ่นทำชิ่งกันก่อนบอลมาอยู่ที่ ชูเอา กันเซโล่ แล้วเลี้ยงขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนล็อคบอลเข้ากลางแล้วตัดสินใจยิงด้วยซ้าย แต่บอลยังไปติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ


หลังจากนั้นเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่นที่ครองบอลได้มากกว่า แต่ยังหาช่องเจาะประตูเพิ่มไม่ได้ เกมผ่านไปแล้ว 75 นาที สกอร์ยังคงเดิมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ ไบรท์ตัน 1-0


นาทีที่ 90+2 กองหลังทีมเยือนโหม่งสกัดไม่ดี ก่อนที่ เควิน เดอ บรอยน์ พยายามจะไปเอาบอลแล้วถึงบอลก่อน แต่มาโดน โรเบิร์ต ซานเชซ รวบล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันทีก่อนเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง รับหน้าที่ยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกไป


ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้น ไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเอาชนะ ไบรท์ตัน 1-0 ส่งให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บชัยชนะเป็นเกมที่ 4 ติดต่อกัน มีเพิ่มเป็น 32 คะแนน ขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ของตารางชั่วคราว ขณะที่ "นกนางนวล" อยู่ที่ 17


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (4-33) : เอแดร์ซอน ; ชูเอา กันเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ; แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน ; ริยาด มาห์เรซ (กาเบรียล เชซุส น.67), เควิน เดอ บรอยน์ , ฟิล โฟเด้น (ราฮีม สเตอร์ลิง น.81)


ไบรท์ตัน ระบบ(3-4-2-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ ; อดัม เว็บสเตอร์, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น ; โยเอล เฟลท์มัน, เบน ไวท์, ดาวี ปร็อปเปอร์ (โซลลี่ มาร์ช น.69), แบร์นาร์โด้ ; อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ , เพอร์ซี่ เทา (นีล โมเปย์ น.68); เลอันโดร ทรอสซาร์


ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH