เลสเตอร์ล่าชัยขึ้นฝูงบู๊เชลซีหวังเฮต่อเนื่อง
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 19 ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม "จิ้งจอกน้ำเงิน" หวังฮอตต่อเนื่องขึ้นนำฝูงรับมือ "สิงห์บลูส์" ขอเค้นฟอร์มเก่งไต่อันดับ เริ่มฟาดแข้งเวลา 03.15 น. และทรรศนะจากทีมงาน
วันนี้ ( 19 มกราคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 19 "จิ้งจอกน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "สิงห์บลูส์" เชลซี ลงทำการแข่งขันเวลา 03.15 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
28/06/20 เลสเตอร์ 0-1 เชลซี (เอฟเอ คัพ)
01/02/20 เลสเตอร์ 2-2 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
18/08/19 เชลซี 1-1 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)
12/05/19 เลสเตอร์ 0-0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
22/12/18 เชลซี 0-1 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
เลสเตอร์
16/01/21 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 (เหย้า,พรีเมียร์ลีก)
09/01/21 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
03/01/21 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
28/12/20 เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
26/12/20 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
เชลซี
16/01/21 ชนะ ฟูแล่ม 1-0 (เยือน,พรีเมียร์ลีก)
10/01/21 ชนะ มอร์แคมบ์ 4-0 (เหย้า, เอฟเอ คัพ)
03/01/21 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
28/12/20 เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
26/12/20 แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมล่าสุด
เลสเตอร์
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือไอร์แลนด์เหนือพา "สุนัขจิ้งจอก" ชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ในเกมล่าสุดเป็นการคว้าชัย 3 นัดติดหากยคว้าสามแต้มเกมนี้ได้จะแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงทันที
ความพร้อมเกมนี้ขาดแค่ เดนนิส ปราต มิดฟิลด์เบลเยียมที่ต้องพักยาวเพียงรายเดียวเท่านั้น ขณะที่ เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าตัวเก่งที่เจ็บสะโพกยังต้องลุ้นความฟิตอีกทีหากไม่ไหว เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ พร้อมเสียบแทน
การจัดทัพเกมนี้อาจมีการปรับเล็กน้อย ส่ง ซากลาร์ โซยุนชู กองหลังตุรกีที่ฟิตสมบูรณ์แล้วเบียดเวสลี่ย์ โฟฟาน่า ยืนเซนเตอร์คู่จอนนี่ อีแวนส์ ส่วนแกนหลังอื่นยังคงมี เจมส์ แมดดิสัน, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, ยูริ ตีเลอมันส์ และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นำทัพ
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; เจมส์ จัสติน, ซากลาร์ โซยุนชู, จอนนี่ อีแวนส์, ทิโมธี กาสตานเญ่ ; วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์ ; มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ; เจมี่ วาร์ดี้ (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่)
เชลซี
แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือหนุ่มพา "สิงห์บลูส์" ชนะฟูแล่ม 1-0 ในเกมล่าสุดทำให้คว้าชัย 2 นัดติดต่อกันในทุกรายการแต่ยังรั้งที่ 7 มี 29 แต้มจาก 18 เกมตามหลังจ่าฝูง 7 แต้ม
ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งาน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางพลังม้าที่เจ็บกล้ามเนื้อต้นขา แต่จะได้ อันเดรียส คริสเตนเซ่น กองหลังฟิตกลับมาเป็นตัวเลือก
การจัดทัพน่ากลับมาใช้ ติโม แวร์เนอร์ หรือ แทมมี่ อับราแฮม ที่เป็นสำรองในเกมล่าสุดออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลล์เวลล์, เมสัน เม้าน์ท และ ฮาคิม ซิเย็ช
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ ; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เคิร์ต ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ ; มัตเตโอ โควาซิช, จอร์จินโญ่, เมสัน เมาน์ท ; ฮาคิม ซิเย็ค, ติโม แวร์เนอร์ (แทมมี่ อับราแฮม), คริสเตียน พูลิซิช
True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน
ผลงานช่วงนี้เลสเตอร์ร้อนแรงกว่าชัดเจนสภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์มีเกมโต้ที่เร็วและเด็ดขาด ขณะที่เชลซียังมีปัญหาเกมรุกโดยเฉพาะแวร์เนอร์ที่ยังฝืดไม่เลิกดีที่เกมรับกลับเก็บคลีนชีตได้แต่โโยรวมยังไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่จึงเชื่อว่าเจ้าถิ่นชอบเล่นกับทีมใหญ่หากเชลซีหลังลอยเมื่อไหร่โดนเล่นงานจนน้ำตาตกแน่
เลสเตอร์ ชนะ เชลซี 2-1