Football
เฮแรกรอบ6นัด! ลิเวอร์พูลคืนฟอร์มบุกเชือดสเปอร์ส 3-1 ขึ้นรั้งท็อปโฟร์

เฮแรกรอบ6นัด! ลิเวอร์พูลคืนฟอร์มบุกเชือดสเปอร์ส 3-1 ขึ้นรั้งท็อปโฟร์

โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่, เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ซาดิโอ มาเน่ ซัดคนละตุงพา ลิเวอร์พูล บุกชนะ สเปอร์ส ถึงถิ่น 3-1 เฮแรกรอบ 6 นัด ขยับขึ้นท็อปโฟร์ เก็บได้ 37 แต้ม ด้าน "ไก่เดือยทอง" สะดุดพ่ายรอบ 5 เกม คงอยู่ที่ 6 มี 33 คะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 64

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 20 "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิดสนามท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล


เริ่มเกมมาในนาทีที่ 3 เจ้าบ้านทำเกมรุกขึ้นมา โดย ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ ส่งบอลให้ ซน ฮึง-มิน แล้วฝากไว้ที่ แฮร์รี่ เคน ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ ซน ฮึง-มิน อีกครั้ง หลังวิ่งหลุดเดี่ยวขึ้นหน้าไป แล้วแปด้วยซ้าย ส่งบอลเสียบมุมเสาแรกเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินต้องเช็กวีเออาร์ ก่อนชี้ว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ทำให้ สเปอร์ส ชวดใส่สกอร์ออกนำ


นาทีที่ 22 เป็นจังหวะสวนกลับเร็วของเจ้าถิ่น ก่อนที่ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น จะวางบอลให้ ซน ฮึง-มิน วิ่งหลุดไปแล้วเลือกแปกะยัดเสาแรก แต่ไม่ผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์


ต่อมาในนาทีที่ 24 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้น จากจังหวะที่ทำชิ่งกันหน้ากรอบเขตโทษของ สเปอร์ส ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะพยายามตักบอลส่งให้ ซาดิโอ มาเน่ แต่ อูโก้ โยริส อ่านเกมทัน ชิงออกมารับไว้ได้ก่อน


จากนั้นสองทีมพยายามต่อบอลเพื่อลุ้นทำประตู เกมส่วนใหญ่อยู่ในแดนกลาง และยังไม่มีทีมใดได้ลุ้นแบบจังหวะแบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 30 นาที สเปอร์ส ยังเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0


นาทีที่ 42 ทีมเยือนมีโอกาส จากการที่ โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ดีดบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ที่สอดเข้าไป แล้วได้ซัด แต่ไปตรงตัว อูโก้ โยริส ปัดเอาไว้ได้ทัน


ถัดมาในนาทีที่ 45+4 ทีมเยือนเซ็ตกันไป-มา ก่อนที่ จะมีการวางบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ ทางฝั่งซ้าย แล้วได้จ่ายตัดเข้าในถึง โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เข้าฮอตจ่อๆ ในระยะเผาขนไม่เหลือ พา ลิเวอร์พูล บุกนำ สเปอร์ส 1-0 และหมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้


กลับมาสู่เกมครึ่งหลัง ในนาทีที่ 47 ทีมเยือนตัดเกมจากแดนกลางมาเล่นได้ ก่อนที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จะวางบอลให้ ซาดิโอ มาเน่ จะได้ปั่นโค้ง แต่ไปติดเซฟของ อูโก้ โยริส ปัดมาเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้ซัดซ้ำโล่งๆ ส่งบอลตุงตาข่าย ลิเวอร์พูล นำห่าง สเปอร์ส 2-0


นาทีที่ 49 เจ้าถิ่นไม่ยอมง่ายๆ เหมือนกัน สตีเว่น เบิร์กไวจ์น คืนบอลย้อยกลับมาให้ ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก ลองกดด้วยขวาเต็มข้อ บริเวณนอกกรอบ ส่งบอลผ่านมือ อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ สเปอร์ส ไล่ตาม ลิเวอร์พูล มาเป็น 1-2


ต่อมาในนาทีที่ 57 โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ เบียดแย่งบอลกับ เอริก ดายเออร์ ก่อนจะส่งให้ ติอาโก้ อัลคันทาร่า แล้วไหลออกข้างไปยัง ซาดิโอ มาเน่ ได้ลากจี้ขึ้นหน้า ก่อนจ่ายให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จับแต่งบอล แล้วซัดด้วยซ้ายเน้นๆ ส่งบอลสู้ก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินได้ขอดูภาพชช้าจากวีเออาร์ ก่อนชี้ว่า ฟีร์มิโน่ ทำแฮนด์บอลไปก่อนหน้าแล้ว ทำให้ ลิเวอร์พูล โดนริบสกอร์คืน


นาทีที่ 65 ทีมเยือนมาได้ประตูที่สามจนได้ จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ โยนบอลยาวข้ามฟากขึ้นหน้าไปถึง ซาดิโอ มาเน่ ได้ยิงด้วยซ้าย พา ลิเวอร์พูล ทิ้ง สเปอร์ส 3-1


หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขัน สเปอร์ส เปิดบ้านแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 ทำให้ "ไก่เดือยทอง" สะดุดพ่ายในลีกรอบ 5 เกม คงอยู่ที่ 6 มี 33 คะแนน ด้าน "หงส์แดง" เฮแรกรอบ 6 นัด ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 4 ของตาราง เก็บได้ 37 แต้ม ตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 คะแนน


11 คนแรกที่ลงสนามเป็นตัวจริง


สเปอร์ส ระบบ (3-4-3) : อูโก้ โยริส ; โจ โรดอน, เอริก ดายเออร์, เบน เดวี่ส์ ; แซร์ช โอริเย่ร์ (แฮร์รี่ วิงส์ น.45), ต็องกี เอ็นดอมเบเล่, ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ; สตีเว่น เบิร์กไวจ์น (แกเร็ธ เบล น.81), แฮร์รี่ เคน (เอริค ลาเมล่า น.45), ซน ฮึง-มิน


ลิเวอร์พูล ระบบ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติป (นาธาเนียล ฟิลลิปส์ น.45), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้ อัลคันทาร่า (เคอร์ติส โจนส์ น.78), เจมส์ มิลเนอร์ ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (ดิว็อค โอริกี้ น.87), ซาดิโอ มาเน่


ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH