เชลซีสุดคึกหวังชัยขึ้นท็อปโฟร์รับนิวคาสเซิ่ลลุ้นเฮหนีโซนท้ายตาราง
พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 24 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงห์บลูส์" หวังชนะเพื่อแซงขึ้นที่ 4 รับมือ "สาลิกาดง" ขอเฮต่อเนื่องหนีโซนแดงท้ายตาราง เริ่มฟาดแข้งเวลา 031.00 น. และทรรศนะจากทีมงาน
วันนี้ ( 15 กุมภาพันธ์ 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 24 "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ลงทำการแข่งขันเวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสดทาง ทรูพรีเมียร์ฟุตบอล เอชดี 1 (600)
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
21/11/20 นิวคาสเซิ่ล 0-2 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
19/01/20 นิวคาสเซิ่ล 1-0 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
19/10/19 เชลซี 1-0 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก)
13/01/19 เชลซี 2-1 นิวคาสเซิ่ล (พรีเมียร์ลีก)
26/08/18 นิวคาสเซิ่ล 1-2 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
เชลซี
11/02/21 ชนะ บาร์นสลีย์ 1-0 (เยือน, เอฟเอ คัพ)
07/05/21 ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
04/02/21 ชนะ สเปอร์ส 1-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
31/01/21 ชนะ เบิร์นลีย์ 2-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
27/01/21 เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
นิวคาสเซิ่ล
06/02/21 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
02/02/21 แพ้ คริสตัล พาเลซ 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
30/01/21 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
26/01/21 แพ้ ลีดส์ 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)
23/01/21 แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)
ความพร้อมล่าสุด
เชลซี
โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเยอรมันพา "สิงห์บลูส์" ทำผลงานได้ดีต่อเนื่องล่าสุดบุกเชือดเชฟฯ ยูไนเต็ด 2-1 ในเกมลีกต่อด้วยชนะบาร์นสลีย์ 1-0 ในถ้วยเอฟเอ คัพทำให้ชนะมา 4 เกมติดจาก 5 เกมที่คุมทัพยังไม่แพ้ใครพร้อมพาเชลซีขยับรั้งที่ 5 มี 39 แต้มตามหลังท็อปโฟร์แต้มเดียว
ความพร้อมเกมนี้ชวดใช้งาน ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังบราซิเลี่ยนที่เจ็บกล้ามเนื้อ รวมทั้งเช็กความฟิตไค ฮาแวร์ทซ์ ตัวรุกเยอรมันที่ไม่สมบูรณ์ และ อันเดรส คริสเตนเซ่น เจ็บศีรษะเชื่อว่ารายหลังไม่มีปัญหาลงสนามได่แน่นอน
การจัดทัพน่าจะยังยึดทีมชุดเดิมลงสนามต่อไป นฎโดยแกนหลักอย่างเซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ,จอร์จินโญ่, มัตเตโอ โควาซิช และ ติโม แวร์เนอร์
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ (3-4-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ ; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันเดรส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ; รีซ เจมส์, จอร์จินโญ่, มัตเตโอ โควาซิช, เบน ชิลเวลล์ ; เมสัน เมาน์ต, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, ติโม แวร์เนอร์
นิวคาสเซิ่ล
สตีฟ บรูซ กุนซือ "สาลิกาดง" พาทีมทำผลงานกระเตื้องขึ้นหลังไม่ชนะใครมา 11 เกมติดกลับมาชนะสลับแพ้ใน 3 เกมหลัง ล่าสุดเอาชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 3-2 แต่ยังรั้งโซนท้ายตารางอันดับ 17 มี 25 แต้มจาก 23 นัดนำทีมตกชั้นอยู่ 10 แต้ม
ความพร้อมเกมนี้ต้องชวดใช้งาน คัลลั่ม วิลสัน หัวหอกตัวเก่งที่ยิงไป 10 ลูกจาก 25 ตุงที่ทีมทำได้หลังเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า เช่นเดียวกับ ฆาเบียร์ มานกีโญ่ เจ็บข้อเท้า และ ฟาเบียน ชาร์ เจ็บขา ขณะที่เจฟฟ์ เฮนดริก ติดโทษแบน 1 เกมหลังโดนเหลือง-แดงไล่ออกในเกมชนะนักบุญ ส่วน เฟเดริกโก้ เฟร์นานเดซ และ จามาล ลาสเซลล์ส เจ็บเอ็นหลังหัวเข่ายังไม่น่าพร้อมสำหรับเกมนี้
การจัดทัพยังคงยึดแกนหลักจากเกมล่าสุดโดย แอนดี้ แคร์โรล์ จะเสียบแทนวิลสัน ส่วนแกนหลักอย่าง อิซัค เฮย์เด้น, คีแรน คล้าร์ก, โจ วิลล็อค, จอนโจ เชลวี่, มิเกล อัลมิร่อน และ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง พร้อมช่วยทีม
11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม
ระบบ ((4-3-1-2) : คาร์ล ดาร์โลว์ ; เอมิล คราฟธ์, อิซัค เฮย์เด้น, คีแรน คล้าร์ก, จามาล ลูอิส ; โจ วิลล็อค, จอนโจ เชลวี่, ไรอัน เฟรเซอร์ ; มิเกล อัลมิร่อน ; แอนดี้ แคร์โรลล์, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง
True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน
เชลซียุคทูเคิ่ลเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยเกมรับแน่นขึ้นแต่เกมรุกยังค่อนข้างมีปัญหาเรื่องความเฉียบคมยิงน้อยทั้งที่สร้างโอกาสเยอะ ขณะที่นิวคาสเซิ่ลดีขึ้นมาบ้างแล้วแต่การที่ต้องขาดวิลสันดาวยิงตัวเก่งทำให้เกมรุกมีปัญหาแน่ดูแล้วเจ้าถิ่นเล่นได้ครบเครื่องกว่าแม้ทีมเยือนจะมารับลึกแต่เชื่อว่าเอาไม่อยู่แน่
เชลซี ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0