เมอร์ซีย์ไซด์เดือด!ลิเวอร์พูลเปิดศึกเอฟเวอร์ตันล่าชัยเกมลีก

วันนี้ ( 20 กุมภาพันธ์ 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 25 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ลงทำการแข่งขันเวลา 00.30 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

17/10/20 เอฟเวอร์ตัน 2-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

22/06/20 เอฟเวอร์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

05/01/20 ลิเวอร์พูล 1-0 เอฟเวอร์ตัน (เอฟเอ คัพ)

05/12/19 ลิเวอร์พูล 5-2 เอฟเวอร์ตัน (พรีเมียร์ลีก)

03/03/19 เอฟเวอร์ตัน 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล

16/02/21 ชนะ ไลป์ซิก 2-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

13/02/21 แพ้ เลสเตอร์ 1-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

07/02/21 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-4 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

03/02/21 แพ้ ไบรท์ตัน 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

31/01/21 ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

เอฟเวอร์ตัน

17/02/21 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-3 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

14/02/21 แพ้ ฟูแล่ม 0-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

11/02/21 ชนะ สเปอร์ส 5-4 (เหย้า, เอฟเอ คัพ)

06/02/21 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

03/02/21 ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

ความพร้อมล่าสุด

ลิเวอร์พูล

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรมันพา "หงส์แดง" แพ้เลสเตอร์คาบ้าน 1-3 เป็นการปราชัยเกมลีก 3 นัดติดหล่นมารั้งที่ 6 ตารางคะแนนตามหลังที่สอง 6 แต้ม ก่อนจะมาคืนฟอร์มเอาชนะ ไลป์ซิก 2-0 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเมื่อกลางสัปดาห์

ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งานตัวเจ็บหน้าเดิมทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โฌเอล มาติป และ โจ โกเมซ, ฟาบินโญ และ ดีโอโก้ โชต้า ขณะที่เจมส์ มิลเนอร์ และ นาบี เกอิต้า ที่เจ็บก่อนหน้านี้เพิ่งกลับมาซ้อมยังต้องเช็กฟิตเช่นเดียวกับอลีสซง เบ็คเกอร์ นายด่านมือ1 และ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายด่านดาวรุ่งที่ไม่ได้ซ้อมเมื่อวานนี้ แต่ได้เบน เดวิส ปราการหลังตัวหใม่หายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือก

การจัดทัพหาก อลีสซง ไม่ไหว อาเดรียน น่าได้เสียบแทน ส่วนขุมกำลังอื่นๆไม่น่าเปลี่ยน โอซาน คาบัค ที่ฟอร์มดีถ่วยยุโรแจะยืนเซนเตอร์คู่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ต่อไป ส่วนเกมรุกยังเป็นสามประสานโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; เคอร์ติส โจนส์, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้ อัลคันทาร่า ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

เอฟเวอร์ตัน

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซืออิตาเลียนพา "ทอฟฟี่" แพ้แมนฯ ซิตี้ 1-3 ในเกมลีกนัดตกค้างเมื่อกลางสัปดาห์ทำให้ปราชัยในลีก 2 นัดติดต่อกันรั้งอันดับ 7 ตามหลัง ลิเวอร์พูล 3 คะแนน

ความพร้มเกมนี้ยังชวดใช้งานเยอร์รี่ มิน่า เซนเตอร์แบ็กคนสำคัญเจ็บน่อง รวมทั้ง ฌอง-ฟิลิปป์ ฌาแม็ง ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย แต่จะได้ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน กองหน้าตัวเก่ง และ อัลลัน กองกลางตัวรับฟิตกลับมาช่วยทีมได้แล้ว

การจัดทัพยังให้เบน ก็อดฟรี่ย์ ยืนเซนเตอร์คู่ ไมเคิ่ล คีน ต่อไปส่วนเกมรุก โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน จะกลับมายืนหอกทำให้อเล็กซ์ อิโวบี้ กับ ฮาเมส โรดิเกซ ต้องแย่งสัมปทานตัวรุกที่จะลงเล่นร่วมกับกิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน และ ริชาร์ลิซอน

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด ; เซมัส โคลแมน, เบน ก็อดฟรี่ย์, ไมเคิ่ล คีน, ลูก้าส์ ดีญ ; อับดูลาย ดูกูเร่, ทอม เดวิส (อัลลัน) ; อเล็กซ์ อิโวบี้ (ฮาเมส โรดิเกซ), กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, ริชาร์ลิซอน ; โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

ลิเวอร์พูลฟอร์มหลุดในลีกแบบไม่น่าเชื่อแต่การกลับมาเก็บชัยถ้วยยุโรปได้แบบคลีนชีตน่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ ขณะที่เอฟเวอร์ตันช่วงนี้มีปัญหาเกมรับค่อนข้างรั่วส่วนเกมรุกก็ไม่คอ่ยเด็ดขาดเท่าไหร่ดูแล้วเกมนี้เจ้าถิ่นครองบอลบุกตามสไตล์แต่จะเจาได้หรือเปล่าต้องวัดใจเหล่าตัวรุกซึ่งเชื่อว่าน่าจะกลับมาอยู่ในฟอร์มแล้วและจะบดเอาชนะได้

ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1