'เชฟยู' หวังแต้มหนีตายดวล 'ลิเวอร์พูล' ขอเฮหยุดแพ้รวดเกมลีก

วันนี้ ( 28 กุมภาพันธ์ 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 26 "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด เปิดสนามบรามอลล์ เลน รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 02.15 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

25/10/20 ลิเวอร์พูล 2-1 เชฟฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

03/01/20 ลิเวอร์พูล 2-0 เชฟฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

28/09/19 เชฟฯ ยูไนเต็ด 0-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

24/02/07 ลิเวอร์พูล 4-0 เชฟฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

19/08/06 เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

เชฟฯ ยูไนเต็ด

21/02/21 แพ้ ฟูแล่ม 0-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

16/02/21 แพ้ เวสต์แฮม 0-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

11/02/21 ชนะ บริสตอล ซิตี้ 1-0 (เหย้า, เอฟเอ คัพ)

08/02/21 แพ้ เชลซี 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

02/02/21 ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1 (เหย้า,) พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

21/02/21 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

16/02/21 ชนะ ไลป์ซิก 2-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

13/02/21 แพ้ เลสเตอร์ 1-3 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

07/02/21 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-4 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

03/02/21 แพ้ ไบรท์ตัน 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

ความพร้อมล่าสุด

เชฟฯ ยูไนเต็ด

คริส ไวลเดอร์ กุนซือดาบคู่พาทีมแพ้ฟูแล่ม 0-1 ทำให้แพ้ดมลีกรวด 3 เกมจมบ๊วยไม่เลิกตามหลังโซนปลอดภัยห่างถึง 15 แต้ม

ความพร้อมเกมนี้ต้องชวดใช้งานจอห์น เอแกน, แจ็ค โอคอนเนลล์, แซนเดอร์ เบิร์ก, แจ็ค โรบินสัน และ ลีส์ มูส์เซต ที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว แถมมาเสีย เจย์เด้น โบเกิ้ล และ คริส บาแช่ม เจ็บเพิ่มเติมอีก

การจัดทัพยังคงวางใจแกนหลักหน้าเดิมอย่างเอธาน แอมปาดู, ฟิล จากีลก้า,จอร์จ บัลด็อก, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น ลุนด์สแตรม, โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ และ บิลลี่ ชาร์ปส์ ออกสตาร์ตตัวจริงทำให้ริอาน บรูว์สเตอร์ หัวหอกดาวรุ่งนั่งรอโอกาสเจออดีตต้นสังกัดเหมือนเดิม

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (3-5-2) : แอรอน แรมส์เดล ; เอธาน แอมปาดู, ฟิล จากีลก้า, คีน ไบรอัน ; จอร์จ บัลด็อก, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอห์น ลุนด์สแตรม, จอห์น เฟล็ค, เอ็นดาร์ สตีเว่นส์ ; โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, บิลลี่ ชาร์ปส์

ลิเวอร์พูล

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรมันพา "หงส์แดง" แพ้ เอฟเวอร์ตัน คาแอนฟิลด์ 0-2 ทำให้ปราชัยเกมลีก 4 นัดรวดหล่นรั้งที่ 6 ตามหลังท็อปโฟร์ 5 แต้มและตามจ่าฝูงห่างถึง 22 แต้ม

ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งานตัวเจ็บหน้าเดิมทั้งเฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โฌเอล มาติ๊ป และ โจ โกเมซ ก่อนมาเสียจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมที่เพิ่งผ่าตัดโคนขาหนีบพักอย่างน้อยจนถึงเดือนหน้าและเช็กความฟิตดีเอโก้ โชต้า, เจมส์ มิลเนอร์ และ ฟาบินโญ่ ที่กลับมาซ้อมแล้วรวมทั้งเช็กความพร้อม อลีสซง เบ็คเกอร์ นายด่านมือ 1 ที่เพิ่งเสียคุณพ่อ

การจัดทัพเกมนี้หากอลีสซงไม่พร้อม คีวีน เคลลิเฮอร์ จะลงเฝ้าเสาแทน โดยส่งโอซาน คาบัค ยืนเซนเตอร์คู่ เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ ขณะที่แดนกลางเคอร์ติส โจนส์ เสียบแทนกัปตันเฮนโด้ ส่วนสามประสานเกมรุกยังคงเป็นโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-3-3) : อลีสซง (คีวีน เคลลิเฮอร์) ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โอซาน คาบัค, เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; เคอร์ติส โจนส์, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินโย่ ไวนัลจ์ดุม ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

เชฟฯ ยูไนเต็ดไร้วี่แววคืนฟอร์มเก่งซีซั่นที่แล้วมีปัญหาทั้งแนวรับที่หลวมเกมรุกก็ไม่เด็ดขาดขณะที่ลิเวอร์พูลฟอร์มหลุดเหลือเชื่อแพ้4เกมรวดแนวรุกขาดความมั่นใจเห็นได้ชัดเกมนี้แม้เจอเกมอึดอันเจ้าถิ่นเน้นรับลึกรอสวนแต่เชื่อว่าพอเปิดเกมบดไปเรื่อยๆทีมเยือนน่าเบียดเข้าวินได้

เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2