'เบิร์นลี่ย์' หวังแต้มหนีโซนแดงรับ 'เลสเตอร์' ขอเฮลุ้นรองฝูง

วันนี้ ( 3 มีนาคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ "เดอะ คลาเร็ตส์" เบิร์นลี่ย์ เปิดสนาม เทิร์ฟ มัวร์ รับการมาเยือนของ "จิ้งจอกน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ ลงทำการแข่งขันเวลา 01.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

21/09/20 เลสเตอร์ 4-2 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีก)

19/01/20 เบิร์นลี่ย์ 2-1 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

19/10/19 เลสเตอร์ 2-1 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีก)

16/03/19 เบิร์นลี่ย์ 1-2 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

10/11/18 เลสเตอร์ 0-0 เบิร์นลี่ย์ (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

เบิร์นลี่ย์

28/02/21 แพ้ สเปอร์ส 0-4 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

21/02/21 เสมอ เวสต์บรอมวิช 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

17/02/21 เสมอ ฟูแล่ม 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

13/02/21 ชนะ คริสตัล พาเลซ 3-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

10/02/21 แพ้ บอร์นมัธ 0-2 (เหย้า, เอฟเอ คัพ)

เลสเตอร์

28/02/21 แพ้ อาร์เซน่อล 1-3 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

25/02/21 แพ้ สลาเวีย ปราก 0-2 (เหย้า, ยูโรปา ลีก)

21/02/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

18/02/21 เสมอ สลาเวีย ปราก 0-0 (เยือน, ยูโรปา ลีก)

13/02/21 ชนะ ลิเวอร์พูล 3-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

ความพร้อมล่าสุด

เบิร์นลี่ย์

ฌอน ไดช์ กุนซือ "เดอะ คลาเร็ตส์" พาทีมแพ้สเปอร์ส 0-4 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 3 เกมรั้งที่ 15 มี 28 แต้มเหนือโซนตกชั้น 5 คะแนน

ความพร้อมเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้บรการเหล่าแข้งเจ็บอย่าง เอริค ปีเตอร์ส, ร็อบบี้ เบรดี้, โยฮัน เบิร์ก กุ๊ดมุนด์สสัน และ แอชลี่ย์ บาร์นส์ ที่อยู่ในช่วงพักรักษาตัว

การจัดทัพเกมนี้จะให้ คริส วู้ด กลับมายืนกองหน้าตัวจริงหลังเป็นสำรองได้ในเกมล่าสุด โดยออกสตาร์ตร่วมกับแกนหลักอย่าง เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แจ็ค คอร์ค, ดไวท์ แม็คนีล และ เจย์ โรดริเกซ

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-4-2) : นิค โป๊ป ; แม็ทธิว โลว์ตัน, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, เบน มี, ชาร์ลี เทย์เลอร์ ; จอช บราวน์ฮิลล์, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แจ็ค คอร์ค, ดไวท์ แม็คนีล ; คริส วู้ด, เจย์ โรดริเกซ

เลสเตอร์

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือ "จิ้งจอกน้ำเงิน" พาทีมแพ้อาร์เซน่อล 1-3 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้ 2 นัดติดทุกรายการรั้งที่ 3 ตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ดรองฝูงเพียงแต้มเดียว

ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งานตัวเจ็บหน้าเดิมอย่างเจมส์ แมดดิสัน, อโยเซ่ เปเรซ, เจมส์ จัสติน, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, เวส มอร์แกน และ เดนนิส ปราต ล่าสุดเสีย ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ แนวรุกตัวเก่งที่เจ็บเข่าเพิ่มไปอีกราย

การจัดทัเกมนี้ยังยึดแกนหลักอย่างจอนนี่ อีแวนส์, ซากลาร์ โซยุนชู, ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และ เจมี่ วาร์ดี้ นำทัพพร้อมให้ เซนกิซ อุนเดอร์ กับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ เสียบแทนตำแหน่งแมดดิสัน กับ บาร์นส์

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; ริคาร์โด้ เปเรยร่า, จอนนี่ อีแวนส์, ซากลาร์ โซยุนชู, ติโมธี คาสตาญ ; มาร์ค อัลไบรท์ตัน, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลมันส์, เซนกิซ อุนเดอร์ ; เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

แม้เบิร์นลี่ย์ปราชัยเกมล่าสุดมายับแต่ยามเล่นในถิ่นพวกเขาค่อนข้างเล่นได้เหนียวแน่น ขณะที่เลสเตอร์เจอตัวหลักเจ็บหลายรายโดยเฉพาะแนวรุกทำให้ต้องปรับทีมพอสมควรและประสิทธิภาพอาจลดลงแต่มองว่าด้วยระบบทีมที่ดีอยู่แล้วแถมตัวจบสกอร์อย่างวาร์ดี้ยังเฉียบคมอยู่น่าบุกไปบดเอาชนะได้แบบสนุก

เบิร์นลี่ย์ แพ้ เลสเตอร์ 1-2