Football
เดอบรอยน์ควงมาห์เรซเบิ้ล! แมนซิตี้เปิดรังถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน 5-2 นำฝูงโด่งทิ้งผี14แต้ม

เดอบรอยน์ควงมาห์เรซเบิ้ล! แมนซิตี้เปิดรังถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน 5-2 นำฝูงโด่งทิ้งผี14แต้ม

เควิน เดอ บรอยน์ กับ ริยาด มาห์เรซ ซัดคนะละ 2 ตุง ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-2 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า"กลับมาเก็บชัยพร้อมมีคะแนนเพิ่มเป็น 68 แต้ม ทิ้งห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มเป็น 14 คะแนน ขณะที่ "นักบุญ"พ่าย 3 จาก 4 เกมหลังสุด อยู่ที่ 14

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ลงทำการแข่งขันเวลา 01.00 น. ประจำวันพุธที่ 10 มีนาคม 2564


เริ่มการเกมการแข่งขันมาทั้งสองทีมต่างพยายามทำเกมรุกบุกเข้าใส่กัน แต่ยังไม่มีทีมใดที่มีจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


หลังจากนั้นในนาทีที่ 15 รูเบน ดิอาส วางบอลยาวให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ได้บอลทางด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ามาให้ ฟิล โฟเด้น ได้จังหวะยิงแต่บอลไปติดเซฟของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ก่อนมาเข้าทางของ เควิน เดอ บรอยน์ ได้จังหวะยิงซ้ำ ส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0


นาทีที่ 23 เนธาน เร้ดมอนด์ ได้บอลก่อนเลี้ยงจี้ขึ้นมาหน้าเขตโทษ แล้วได้โอกาส ก่อนตัดสินใจยิงบอลโค้งจะเข้าเสาสองแต่โดน เอแดร์ซอน ปัดบอลออกหลังไปได้


หลังจากนั้นในจังหวะเตะมุมของทีมเยือน เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เปิดบอลเข้ามาก่อนที่จะเป็น แยนนิค เวสเตอร์การ์ด โดน อายเมริค ลาปอร์กต์ ดึงล้มลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินวีเออาร์ ส่งสัญญาณผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษ ก่อนที่จะเป็น เจมส์ วอร์ด-เพราส์ รับหน้าที่ยิงไม่พลาด ช่วยให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1


นาทีที่ 33 เช อดัมส์ พักบอลหน้าเขตโทษ จ่ายบอลคืนหลังให้ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ได้จังหวะยิงจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งตรงกรอบ แต่ยังเป็น เอแดร์ซอน ที่ปัดบอลข้ามคานออกไปได้


หลังจากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ จ่ายบอลไปติดนักเตะเซาธ์แฮมป์ตัน ก่อนบอลจะมาเข้าทางเช อดัมส์ ได้จังหวะจ่ายบอลต่อมาให้ มุสซ่า เฌเนโป ได้จังหวะยิงแต่บอลหลุดเสาออกหลังไป


นาทีที่ 40 เช อดัมส์ เปิดบอลข้ามฝั่งมาแต่ไปติด ริยาด มาห์เรซ ก่อนพาบอลเลี้ยงตัดมาหน้าเขตโทษ ก่อนยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1


นาทีที่ 45+3 ริยาด มาห์เรซ ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วตัดสินใจยิง แต่บอลไปชนเสา ก่อนมาเข้าทาง อิลคาย กินโดกัน ได้จังหวะยิงซ้ำส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1


ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1


เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 50 เจ้าถิ่นได้เตะมุมก่อนเล่นบอลสั้น แล้วเป็น ริยาด มาห์เรซ ที่จ่ายบอลมาให้ ฟิล โฟเด้น ที่หน้าเขตโทษแล้วได้ยิงเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบ ก่อนเป็น อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ที่ปัดบอลออกมาได้


นาทีที่ 55 โมฮาเหม็ด ซาลิซู จ่ายบอลไปติด แฟร์นันดินโญ่ ก่อนส่งบอลมาให้ ฟิล โฟเด้น แล้วเลือกส่งบอลต่อมาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้จังหวะเลี้ยงบอลก่อนหาช่อง แล้วตัดสินใจยิงส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-1


หลังจากนั้นอีก 1 นาที ต่อมา เนธาน เร้ดมอนด์ ได้บอลขึ้นมาหน้าเขตโทษ ก่อนส่งต่อให้ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง แล้วพยายามยิงบอลแต่บอลไปเข้าทาง เช อดัมส์ ได้จังหวะยิงส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ เซาธ์แฮมป์ตัน ไล่ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-4


นาทีที่ 59 ไคล์ วอล์คเกอร์ จ่ายบอลมาหน้าเขตโทษให้ ฟิล โฟเด้น พักบอลก่อนส่งต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้จังหวะล็อคหลบ ก่อนได้จังหวะยิงส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-2


นาทีที่ 72 กองหลังทีมสกัดบอลกลับออกมาเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ก่อนส่งต่อไปให้ อิลคาย กินโดกัน ได้จังหวะส่งกลับมาให้ ฟิล โฟเด้น ได้จังหวะยิงแต่บอลหลุดเสาออกไป


ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทีมทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 5-2 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า"กลับมาเก็บชัยพร้อมมีคะแนนเพิ่มเป็น 68 แต้ม ทิ้งห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่มเป็น 14 คะแนน ขณะที่ "นักบุญ"พ่าย 3 จาก 4 เกมหลังสุด อยู่ที่ 14


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (4-3-3) : เอแดร์ซอน ; ไคล์ วอล์คเกอร์, อายเมริค ลาปอร์กต์ , รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (เบนฌาแม็ง เมนดี้ น.81); เควิน เดอ บรอยน์ (เซร์คิโอ อเกวโร่ น.72), แฟร์นันดินโญ่ , อิลคาย กินโดกัน ; แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น, ริยาด มาห์เรซ (เฟร์ราน ตอร์เรส น.61)


เซาธ์แฮมป์ตัน ระบบ (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ; โมฮาเหม็ด ซาลิซู,แยน เบ็ดนาเร็ก, แยนนิค เวสเตอร์การ์ด,ไรอัน เบอร์ทรานด์ ; มุสซ่า เฌเนโป (นาธาน เทลล่า น.46),แจ็ค สตีเฟ่นส์ (อิบราฮิมา ดิอัลโล่ น.63),สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง (คาเล็บ วัตต์ส น.72), เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ; เนธาน เร้ดมอนด์ , เช อดัมส์

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH