Football
เชลซีล่าชัยขึ้นท็อปทรีรับไบรท์ตันหวังเฮหนีห่างโซนตกชั้น

เชลซีล่าชัยขึ้นท็อปทรีรับไบรท์ตันหวังเฮหนีห่างโซนตกชั้น

เชลซีล่าชัยขึ้นท็อปทรีรับไบรท์ตันหวังเฮหนีห่างโซนตกชั้น

พรีวิวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัด 32 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงห์บลูส์" ขอเก็บชัยขึ้นท็อปทรีรับมือ "นกนางนวล" หวังชนะขยีบหนีห่างโซนแดง เริ่มฟาดแข้งเวลา 02.00 น. และทรรศนะจากทีมงาน

วันนี้ ( 20 เมษายน 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 32 "สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ "นกนางนวล" ไบรท์ตัน ลงทำการแข่งขันเวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)


ผลงานการพบกันที่ผ่านมา


15/09/20 ไบรท์ตัน 1-3 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)

29/08/20 ไบรท์ตัน 1-1 เชลซี (กระชับมิตร)

01/01/20 ไบรท์ตัน 1-1 เชลซี (พรีเมียร์ลีก)

28/09/19 เชลซี 2-0 ไบรท์ตัน (พรีเมียร์ลีก)

04/04/19 เชลซี 3-0 ไบรท์ตัน (พรีเมียร์ลีก)


ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม


เชลซี


17/04/21 ชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 (สนามกลาง, เอฟเอ คัพ)

13/04/21 แพ้ ปอร์โต้ 0-1 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

10/04/21 ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

08/04/21 ชนะ ปอร์โต้ 2-0 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

04/04/21 แพ้ เวสต์บรอมวิชฯ 2-5 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)


ไบรท์ตัน


13/04/21 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

05/04/21 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-2 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

21/03/21 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

15/03/21 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

07/03/21 แพ้ เลสเตอร์ 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)


ความพร้อมล่าสุด


เชลซี


โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือเยอรมันเพิ่งพา "สิงห์บลูส์" บดชนะแมนฯ ซิตี้ 1-0 ผ่านเข้าชิงเอฟเอ คัพได้สำเร็จ ขณะที่เกมลีกนัดล่าสุดถล่มชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1 รั้งอันดับ 5 ตามหลังเลสเตอร์ทีมอันดับ 3 เพียง2 แต้มเท่านั้น


ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งาน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ที่เจ็บกล้ามเนื้อ และ มาเตโอ โควาซิช เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเพียงแค่สองรายเท่านั้น


การจัดทัพน่าจะปรับพอสมควร เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ได้พักในบอลถ้วยจะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้งเช่นเดียวกับ มาร์กอส อลอนโซ่, คริสเตียน พูลิซิช, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ที่เป็นสำรองเกมล่าสุดจะได้ออกสตาร์ตตัวจริง


ระบบ (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ ; เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, คัวร์ท ซูม่า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ; คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, มาร์กอส อลอนโซ่ ; คริสเตียน พูลิซิช, ไค ฮาแวร์ตซ์ ; โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์


ไบรท์ตัน


เกรแฮม พ็อตเตอร์ กุนซือ"นกนางนวล" พาทีมเสมอเอฟเวอร์ตัน 0-0 ในเกมล่าสุด ทำให้ไม่ชนะมา 2 เกมแล้วรั้งที่ 16 มี33 แต้มเหนือโซนตกชั้น 6 แต้ม


ความพร้อมเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้งานทาริค แลมพ์ตีย์ และ โซลลี่ มาร์ช ที่เจ็บจนต้องพักยาวอยู่ก่อนแล้ว รวมทั้งต้องรอทดสอบความฟิต แอรอน คอนนอลลี่ ที่ไม่สมบูรณ์


การจัดทัพยังคงยึดแกนหลักขาประจำอย่าง เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, อดัม ลัลลาน่า, อีฟส์ บิสซูม่า, เลอันโดร ตรอสซาร์, แดนนี่ เวลเบ็ค และ นีล โมเปย์ ออกสตาร์ตตั้งแต่ต้นเกมตามเดิม


11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม


ระบบ (3-4-2-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ ; เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, โยเอล เฟลท์มัน ; ปาสกาล โกรสส์, อดัม ลัลลาน่า, อีฟส์ บิสซูม่า, ยาคุบ โมเดอร์ ; เลอันโดร ตรอสซาร์, แดนนี่ เวลเบ็ค ; นีล โมเปย์


True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน


เชลซีกำลังมั่นใจสุดหลังล้มแมนฯ ซิตี้มาได้ในบอลถ้วยและผ่านเข้ารอบถ้วยยุโรปได้เช่นกัน ขณะที่ไบรท์ตันยังต้องการแต้มเพื่อการันตีอยู่รอดจึงมาเน้นรับรัดกุมสุดๆดูแล้วเจ้าถิ่นเจอเกมที่อึดอัดแน่อีกทั้งเหล่ากองหน้าก็จบสกอร์ไม่ค่อยเด็ดขาดดีที่ได้แถวสองช่วยสังหารจึงเชื่อว่าหืดจับแน่กว่าจะเก็บชัยได้


เชลซี ชนะ ไบรท์ตัน 1-0

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH