Football
5แดงเดือดสุดมัน! แมนยูดวลลิเวอร์พูล ที่เจ้าถิ่นไม่มีลุ้น แต่ทีมเยือนหวังเก็บชัยจี้ท็อปโฟร์

5แดงเดือดสุดมัน! แมนยูดวลลิเวอร์พูล ที่เจ้าถิ่นไม่มีลุ้น แต่ทีมเยือนหวังเก็บชัยจี้ท็อปโฟร์

5แดงเดือดสุดมัน! แมนยูดวลลิเวอร์พูล ที่เจ้าถิ่นไม่มีลุ้น แต่ทีมเยือนหวังเก็บชัยจี้ท็อปโฟร์

หลังจากที่เกม แมนฯ ยุไนเต็ด ที่พบกับ ลิเวอร์พูล มีอันต้องเลื่อนมาจาก วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังแฟนบอลของ "ปีศาจแดง" ก่อเหตุประท้วง เจ้าของสโมสรอย่างหนัก จนต้องมาเตะกันอีกครั้งในคืนวันพฤหัสที่ 13 พฤษภาคม

สำหรับเกมดังกล่าวจะต้องโมแข้งกันที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งเกมดังกล่าวเตะกันหลังจากที่ "ปีศาจแดง"พึ่งพลาดท่าพ่ายต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ มา 1-2 เมื่อ วันอังคารที่ผ่านมา และทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องลงเล่น 3 เกมในรอบ 5 วัน


โดยวันนี้เราจะมาย้อนดูเกมเดือดที่ต้องเตะกันในสนามเหย้าของฝั่งแมนฯ ยูไนเต็ด กัน ว่ามีเกมไหนบ้างที่คู่ควรอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล และเป้นการโหมโรง ก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้น


แมน ยูไนเต็ด 1-4 ลิเวอร์พูล ปี 2009


เกมดังกล่าวนั้น "ปีศาจแดง" กำลังมีสุดยอดนักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อยู่ในทีม แถมแนวรุกยังมีทั้ง คาร์ลอส เตเวซ,ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ เวย์น รูนี่ย์ แถมในเกมดังกล่าวนั้น แมนฯ ยูไนเต็ดยังออกนำไปก่อนจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จากจุดโทษในนาทีที่ 23 แต่หลังจากนั้นกลับเป็นฝั่งทีมเยือน ที่เดินหน้ากดดันแถม เฟอร์นานโด ตอร์เรส ยังทำแสบ หลังยิงประตูตีเสมอ ก่อนเรียกจุดโทษให้ทีม แล้วเป็น สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิงเข้าไปพา "หงส์แดง" แซงนำในครึ่งแรก ด่อนที่ในครึ่งหลัง ฟาบิโอ ออเรลิโอ้ และ อันเดรีย ดอสเซน่า จะมายิงอีกคนละตุง พาทัพ"หงส์แดง"บุกถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น โดยเกมนี้ หากใครยังจำได้ เนมานย่า มาติช หัวหมุนกับการรับมือ เฟอร์นานโด ตอร์เรส แถมแข้งชาวเซิร์บ ยังมาโดนใยแดงไล่ออกในช่วงครึ่งหลังด้วย


แมน ยูไนเต็ด 3-2 ลิเวอร์พูล ปี 2010


เหมือนจะเป็นเกมที่ง่ายดายของฝั่งเจ้าถิ่น หลังได้กองหน้าค่าตัวแพงอย่าง ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่กด 2 ตุงในนาทีที่ 42 กับ 59 พาทีมออกนำไปแบบสบายๆ 2-0 แต่หลังจากนั้น เพียงแค่ 5 นาที สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็มายิงจุดโทษตีไข่แตกให้ "หงส์แดง" ในนาทีที่ 64 ก่อนที่จะเป็นกองกลางชาวอังกฤษ ที่กดประตูที่สองของตน ให้ทีมตามตีเสมอได้สำเร็จ ในนาทีที่ 70 เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลเสมอ แต่ก็เป็น กองหน้าชาวบิลแกเรียค่าตัวเกิน 30 ล้านปอนด์ ที่มาโมห่งประตูในนาทีที่ 84 เป็นฮตทริคของตัวเอง พา"ปีศาจแดง"เบียดชนะ ลิเวอร์พูล ไปแบบสุดมัน


แมน ยูไนเต็ด 0-3 ลิเวอร์พูล ปี 2014


ตำนานบทใหม่ของ"ปีศาจแดง" หลังไรชายชื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทัพข้างสนามในศึกแดงเดือด และเป็น เดวิด มอยส์ ที่เข้ามาทำหน้าที่นั้นแทน ก่อนที่ในเกมดังกล่าวจะเป็น "ปีศาจแดง"ที่หมดสภาพคารัง หลังมาเจอ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ซัด 2 จุดโทษ ในนาทีที่ 34 กับ 46 พา"หงส์แดง"บุกนำ 2-0 ก่อนที่ในนาทีที่ 78 ดาวเตะชาวอังกฤษ จะได้ลุ้นทำแฮตทริค จากการส่งเป้าที่ระยะ 12 หลา แต่ยิงไม่เข้า แต่อย่างไรก็ตาม หลุยส์ ซัวเรซ ที่มายิงปิดกล่องพาทัพ ลิเวอร์พูล บุกเก็บชัยไปได้ 3-0


แมน ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล ปี 2015


หลังหมดยุคโค้ชชาวสกอตแลนด์ ก็เป็น หลุยส์ ฟาน กัล ที่จบฟุตบอลโลก 2014 เข้ามารับงานในรั่ว"ปีศาจแดง" และเป็นโค้ชชาวฮอลแลนด์ นี่เอง ที่เหมือนมีคู่มือกำราบ "หงส์แดง" หลังในเกมแรกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั้น เจ้าถิ่นมาได้ประตูจาก ดาเล่ย์ บลินด์ พาทีมออกนำ ในนาทีที่ 49 ก่อนที่ต่อมาจะเป็น อันเดร์ เอร์เรร่า กองกลางชาวสเปน ที่กดจุดโทษให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 70 แม้ทีมเยือนจะมาได้ประตูไล่ตาม 1-2 จาก คริสติย็อง เบนเตเก้ แต่ก็เป็น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าดาวรุ่งที่ตอนนั้นใครๆก็ต้องพูดว่าเขาคือใคร มายิงประตูปิดกล่องพา"ปีศาจแดง" ย้ำชัยเอาชนะไป 3-1


แมน ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล ปี 2018


ในช่งที่นายใหญ่ของแมนฯ ยูไนเต็ด มีชื่อว่า โชเซ่ มูรินโญ่ นั้น ที่ปกติมักจะเล่นแบบเน้นเกมรับ แต่ในเกมแดงเดือดครั้งนี้ เจ้าถิ่นกลับอาศัยจังหวะโจมตีเร็วโดยใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่มีความเร็วเลี้ยงบอลเข้าจี้กดดัน เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก่อนเป็น กองหน้าดาวรุ่งชาวอังกฤษ ที่กด 2 ตุง ในนาทีที่ 14,24 พา "ปีศาจแดง" ออกนำเร็วในครึ่งแรก ไป 2-0 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นได้อย่างง่ายดาย ก่อนขยับมาเล่นเกมรับ แล้วรอจังหวะสวนกลับ ก่อนที่ "หงส์แดง" จะมาได้ประตูไล่ตามมา 1-2 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ เอริค ไบยี่ แต่ไม่ทันการ จบเกม "ปีศาจแดง"เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2-1

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH