จากปาก "ขวัญ อุษามณี" ตอบปมอดีตแม่บ้านแฉ!! ลั่นไม่ทะเลาะกับเด็ก-มีหลักฐานที่เป็นความจริง

ล่าสุด "ขวัญ" เปิดใจอีกครั้ง ว่าเห็นที่อดีตแม่บ้านมาพูด แต่ขวัญไม่ได้ตอบโต้ เพราะส่วนตัวรู้อยู่แล้วว่าแท้จริงแล้วความจริงคืออะไร อีกอย่างน้องเขาเป็นเด็ก อีกอย่างการกระปัจจุบันทุกๆ คนที่อ่านสามารถตัดสินใจได้ว่าอะไรมันคือเรื่องจริง อันไหนที่มันค่อนข้างจะเสริมเติมแต่ง (คิดว่ามันเกินจริงไปบ้างไหม?) ก็ทุกข้อแหละค่ะ

(เรื่องให้กินข้าวจานเดียวกับน้องหมา) พี่ว่ามันเป็นไปได้หรอ คือถ้าเกิดว่า คือคนเป็นเด็กทำอะไรยังมีเวลายูเทิร์นกลับมาแม้แต่สิ่งที่ขวัญโฟกัสในชีวิต ขวัญไม่ได้โฟกัสว่าเราจะมานั่งทะเลาะกับใคร แต่ว่าขวัญโฟกัสในสิ่งที่ขวัญกำลังจะสร้าง อย่างตอนนี้ขวัญกำลังจะสร้างแบรนด์ยูซี่ คอสเมติก ของขวัญ เพราะฉะนั้นขวัญจะเอาสมอง และกำลังกายกำลังใจของขวัญ อยู่กับสิ่งที่ขวัญจะสร้าง ส่วนเรื่องอะไรที่มันไม่จริงเดี๋ยวสักพักมันก็ต้องปล่อยไป เพราะว่าขวัญมีหลักฐานที่เป็นความจริงหมด

(เรื่องชั่วโมงการทำงานที่น้องเขาบอกได้นอนชั่วโมงเดียว) โดยส่วนตัวแล้วขวัญเปิดบริษัทแม่บ้านมาระยะเวลา 5 ปี แล้วขวัญเรียนจบปริญญา ทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และกำลังเรียนต่อปริญญาเอก เพราะฉะนั้นขวัญว่า ขวัญมีความรู้พอว่าขวัญทำอะไรที่มันถูกต้องตามหลักกฏหมาย แล้วขวัญเป็นคนสาธารณะ ขวัญไม่เสี่ยงทำอะไรที่จะล้มตัวเอง หรือตัดขาตัวเองหรอก

(เรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างสร้างความเสียหายให้กับขวัญ) มันไม่ใช่ข่าวแรกในชีวิตที่เพิ่งเข้ามาค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา ขวัญเจอมาหมดแล้ว เพียงแต่ว่าทุกวันนี้ขวัญจบใครจะมาต่อยอะไรขวัญต่อ แต่คือขวัญไม่ได้ออกหมัดกลับ ขวัญรู้ว่าชีวิตของขวัญโฟกัสกับอะไร (ไม่โกรธเขาเลยหรอ?) ไม่คิดตรงนั้นค่ะ (ถ้าน้องเขาพูดเกินจริงไปมากๆ คิดจะเอาผิดไหม?) ให้ขวัญไปทะเลาะกับเด็กหรอ? พี่อยู่กับขวัญมานานข่าวไม่ได้ด้านตัวขวัญมันก็มีเยอะทุกคนก็รู้ว่าเรื่องมันไม่ใช่ครั้งแรกที่ขวัญประสบพบเจอ เพราะฉะนั้นขวัญเจอแค่เด็กคนนึงมาพูด คนกลุ่มนึงมาพูดมันจะเป็นอะไร ก็ไม่เป็นอะไร ขวัญอยู่ในสิ่งที่ขวัญกำลังสร้าง

(ได้อ่านข้อความที่เขาออกมาแฉปรี๊ดไหม?) เราเป็นคน เรามีความรู้สึก แต่เรามีลูกน้องเป็นร้อยคน ขวัญมีภาระที่ขวัญจะต้องแบกชีวิตคนอยู่ข้างหลัง ขวัญก็ต้องบาลานซ์ว่าขวัญทำอะไร แล้วขวัญได้อะไร (เราไม่ได้ไปทำแบบนั้นเลย ไม่มีเลยสักข้อ) คือข้อมูลทั้งหมด ที่ขวัญพูดกับพี่สื่อมวลชนว่าขวัญจะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่ขวัญอธิบายพี่เป็นการส่วนตัว และขวัญก็มีหลักฐานเหตุ และผลลงในช่องทางของขวัญแล้ว ทั้งยูทูบ และเฟสบุ๊กว่าเกิดอะไรขึ้น เขาอยู่กับขวัญแค่จำนวน 2 วันครึ่ง หลักฐานการนอนที่คุณบอกว่านอน 1 ชั่วโมง ขวัญก็ให้ทุกคนดูแล้วว่าเขานอนกี่ชั่วโมง เพราะฉะนั้นอันนี้มันคือหลักฐานขั้นต้น เรื่องอะไรใดๆ ต่อ ขวัญว่าถ้าเราเป็นผู้ใหญ่เราไม่ควรปล่อยให้เด็กชี้นำไปในทางที่ผิดค่ะ เราต้องมีวุฒิภาวะมากพอว่าเราควรจะหันเหและไปทางไหน

(เรื่องน้องหมาที่เขาบอกว่าป่วยอยู่ก่อนแล้ว ก่อนที่เขาจะมาทำงาน) ใช่ค่ะ คืออันนี้นะคะขวัญยังยินดีประกาศรับสมัครอยู่นะคะ น้องหมาที่บ้านขวัญมี 10 กว่าตัว หลักๆ ขวัญต้องการคนที่มีทักษะ มีศักยภาพ มีฐานความรู้ที่เป็นผู้ช่วยพยาบาล ว่าเป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์ก็ได้ ที่เราจะมาสามารถมาดูแลน้องหมาด้วย แล้วขวัญมีน้องหมาที่เขาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เดินไม่ได้ ทานอาหารเองไม่ได้ เป็นอัลไซเมอร์ เพราะฉะนั้นตรงเราก็ต้องมีเวลาในการดูแลเขา คนที่รักน้องหมาจะเข้าใจ คนที่เขาไม่เข้าใจเราก็ไม่พูดเพราะว่าขวัญไม่สามารถบอกความรู้สึกกับแต่ละคนได้ว่าคุณต้องรักหมา ประคองน้องหมา ดูแลน้องหมายังไง อันนั้นอยู่ที่ว่าศักยภาพของคน และหัวใจคนนั้นเขาทำงานยังไง

(ที่รับสมัครคือรับเฉพาะคนดูแลน้องหมาอย่างเดียว?) ใช่ ไม่รวม แต่อย่าลืมว่าคนเราต้องการสร้าง Value ให้ตัวเอง ฉันทำงานแค่นี้ ฉันได้เงินเดือนแค่นี้ แต่ถ้าสร้าง Value ให้ตัวเอง ฉันจะได้เงินเดือนมาก ตรงนี้คือสิ่งภายใน แต่การแสดงการกระทำของแต่ละคนเป็นยังไงอันนี้ไม่เหมือนกัน (เขาบอกถึงขั้นว่ามือข้างนึงดูแลหมา อีกข้างนึงทำงานบ้าน?)

ไม่จริง สมมติถ้าเป็นแบบนั้นจริง เขาเล่นโซเชียลตลอดเวลา ทำไมไม่ทำลายขวัญตั้งแต่แรก คุณเสียเวลานั่งพิมพ์กี่พันตัวอักษร

(เรื่องค่าจ้างเขาไม่ได้เงินสักบาท? )ไม่ใช่ค่ะ อย่างที่ย้อนกลับไปคำตอบตอนแรกก็เคลียร์หมดแล้ว ในคลิปวิดีโอที่อธิบายเป็นข้อๆ ว่าเหตุและผลที่แท้จริงเป็นยังไง (เขาโกรธหรือแค้นอะไรเราถึงทำแบบนี้?) ถ้าเราทุกคนให้ความรักเขาเยอะๆ ขวัญว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น (แม่เครียดไหม?) แม่ตอบว่า แม่ผิดเองที่รับเขาเข้ามาโดยที่แม่ไม่รู้

ด้านขวัญเผย จริงๆ โดยส่วนตัวเรามีบริษัทแม่บ้าน มันเป็นสิ่งที่ขวัญใช้คนของแม่บ้าน แต่พอขวัญประกาศรับสมัครแบบส่วนตัว คนก็เข้ามาแบบขอร้อง ต้องการความช่วยเหลือ ต้องการมีงานทำ เราก็คิดว่าตัวเราเป็นคนขยันอยู่แล้ว ทำงานเลี้ยงคุณพ่อคุณแม่ ข้าวเขาก็ไม่มีทาน เราก็คิดว่าเราสงสารคน ให้โอกาสคน ให้ชีวิตคน ให้อาชีพคน ไม่งั้นก็ไม่เปิดบริษัทแม่บ้านหรอก แต่คนมี 2 อย่าง คือตั้งใจทำงานโดยสุจริต หรือคนจะฉกฉวยโดยใช้ชื่อขวัญเป็นผลประโยชน์ให้ตัวเอง เพราะฉะนั้นขวัญอยู่ตรงนี้เป็นแสง ใครจะมาเอาแสงจากขวัญก็ได้ ขวัญให้หมด แต่ว่าขวัญรู้ว่าขวัญต้องทำอะไร

(ที่เขาพูดเรื่องส้มตำ?) ถ้าเขาอยากทานก็บอก เราสั่งให้ได้ แต่ตอนนั้นขวัญสั่งอาหารให้พี่ๆ ช่างแต่งหน้า แล้วเราก็มีมารยาทพอที่เราไม่ได้เอาของเราให้เขา เดี๋ยวเขาหาว่าเป็นของเหลือ เพราะอาหารส่วนตัวเราก็มีพนักงานที่เขาดูแลเป็นกิจจะลักษณะว่าอาหารต้องเป็นยังไง เราไม่ได้แบ่งแยก เราเป็นคนไทย ขวัญเป็นคนหัวโบราณ (ถามถึงเรื่องที่เขาด่าหมา?)

ใช่ อันนี้พนักงานขวัญบอกค่ะ (แต่เขาบอกว่าน้องสาวเขาพูด) (เขานอนเฝ้าน้องหมาแล้วน้องหมาร้องทั้งคืนจนเขาไม่ได้นอนจริงไหม) แล้วพี่เห็นในคลิปว่านอนมั้ย เขานอนกี่ ชม. น้องหมาของขวัญนอนหรือเปล่า เดี๋ยวปิดกล้องเสร็จขวัญจะเอาคลิปให้พี่ๆ ทุกคนดูว่าตอนที่เขามาแล้วเขาเป็นยังไง แต่ขวัญไม่ปล่อยคลิปค่ะเพราะขวัญจบแล้ว ขวัญไม่ทะเลาะกับเด็ก

(ขวัญไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด?) คือไม่ยุ่งค่ะ ไม่ได้ว่าใจดี เพียงแต่เราไม่ยุ่ง อยากให้มีวิจารณญาณในการสื่อด้วย เราไปถามคนที่อยากมีแสง แล้วเราเป็นสื่อ เป็นคนกลาง เอาข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงไปพูด ถึงเขาจะตั้งต้นมาว่าจะยังไงก็แล้วแต่ (มีอะไรจะเตือนครั้งสุดท้ายไหม?) ยูเทิร์นกลับไปเป็นเด็กดีค่ะ (ประกาศตัดขาดเลย?) ตัดขาดอยู่แล้วตั้งแต่วันที่เราให้เขาออกค่ะ (อยากพูดคุยทำความเข้าใจก่อนไหม?) ไม่ต้องค่ะ พี่ๆ นักข่าวไม่ต้องพยายามจับมาชนกัน ไม่ต้องมาฝั่งขวัญทีนึง ฝั่งเขาทีนึง ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้ขวัญจบ หนึ่งคือเราเป็นผู้ใหญ่ สองขวัญมีหน้าที่ที่ต้องทำ สามคือเราจะทะเลาะกับเด็ก มันเป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะฉะนั้นก็คือบายค่ะ ให้อภัยค่ะ ไม่พูด ให้น้องยูเทิร์นเป็นเด็กดี

(หลังปล่อยคลิปไป น้องบอกว่าคลิปเป็นวันที่น้องนุ่มนิ่มเข้า รพ. แล้ว เขาถึงนอนหลับ?) วันนั้นถ้าเกิดคนได้ดูด้วยจริงๆ จะมี 2 วัน น้องนุ่มนิ่มแอดมิตวันนึง สมมติตัวพี่มีน้องหมาป่วยช็อกในมือ พาไป รพ. พี่จะกลับไปนอนในห้องสบายใจเหรอ มันไม่ใช่หน้าที่หรอก มันอยู่ที่นี่ (ชี้ที่อก) ขวัญแค่ถามว่าได้เหรอ ถ้าพี่ทำได้ ขวัญว่าพี่เก่ง แต่ถ้าเป็นขวัญ ขวัญทำไม่ได้ หรือถ้าขวัญไปเจอน้องหมาตัวนึง ขวัญก็ทำไม่ได้กับการที่เขาช็อกแล้วเราเดินไป อันนี้มันอยู่ที่นานาจิตตังค่ะ”

(คนใหม่ที่เข้ามาต้องสกรีนไหม?) คือจริงๆ เราสกรีนโดยพื้นฐานอยู่แล้วค่ะ เราไม่รู้ว่าคนไหนในใจเขาคิดยังไง บางอย่างก็ต้องเสี่ยง และเสียชื่อตอนนี้ไม่เป็นไร เพราะชื่ออุษามณีของขวัญยังอยู่อีกนาน อะไรที่เข้ามาก็แค่ผ่านไป ไม่งั้นขวัญไม่อยู่รอดมาจนถึงวันนี้ได้หรอก

(แบบนี้จะรับคนมีความรู้ด้านนี้มาเลยมั้ย?) ได้ค่ะ ขวัญยินดีเลย ใจขวัญต้องการรับคนที่มีทักษะ มีศักยภาพด้านนี้โดยตรง แต่บางอย่างขวัญใช้หัวใจคิดไป ทำให้ขวัญประสบพบเจอแต่คนหลอกคนโกง เปลี่ยนมาเยอะค่ะ โดยส่วนตัวขวัญถือเรื่องส่วนตัว ขวัญไม่ชอบคนที่เอาของเราไปใช้ หรือใช้พื้นที่ของเรา มาถ่ายรูปในบ้าน บางคนก็ไม่รู้ว่ามีกล้อง ขวัญก็ต้องทำเพื่อเซฟตัวขวัญ บางคนเอาเครื่องสำอางไปทา เอารองเท้าไปลอง อันนี้เป็นสาเหตุว่าทำไมขวัญเปลี่ยนแม่บ้านบ่อย เพราะขวัญมีสิทธิ์เลือกคนที่ดีแค่นั้นเอง ถ้าคนไหนไม่ซื่อสัตย์กับขวัญ ขวัญก็ตัด

(โกรธไหมที่เขาถ่ายรูปแล้วเอารูปบ้านเราไปเผยแพร่?) ไม่โกรธค่ะ แต่ขวัญรู้สึกว่าแบบนี้คือคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะก่อนเข้ามาทำงาน เราก็แจ้งอยู่แล้วว่ากฎระเบียบบริษัทมีอะไรบ้าง ในเมื่อเขาตั้งใจทำแบบนี้ ก็เป็นพฤติกรรมที่ยืนยันว่าเขาไม่พร้อมที่จะทำงานที่นี่ ก็ให้เขาไปทำงานที่อื่นดีกว่า

(เขาบอกว่าจะออกตั้งแต่ 31 แต่รอให้คนใหม่เข้ามาก่อนแล้วให้น้องออก พอคนใหม่เข้ามาปุ๊บก็ให้ออกเลยโดยไม่ให้น้องนอนค้าง? )ไม่ใช่ค่ะ เอาเป็นว่าความจริงขวัญรู้ว่าคืออะไร ก็ให้เขาพูดไป เราจะไม่ไปทะเลาะกับแม่บ้าน เราไม่ทะเลาะกับเด็ก จบ (คนที่เคยเป็นแม่บ้านที่บ้านขวัญออกมาปกป้องว่าไม่เป็นความจริง?) ก็ขอบคุณแม่บ้าน (ยกมือไหว้) คนนั้นนะคะที่รักขวัญ หรือแม่บ้านที่เรียกขวัญว่าบอส ก็ขอบคุณที่ดูแลบอสและอยู่เป็นแบ็กให้ขวัญ ทุกคนก็บอกว่าเดี๋ยวมาทำงานที่บ้านให้ แต่บอสจะบอกว่าให้ทุกคนทำงานหลักให้เต็มที่ เพราะบอสยังโอเค บอสไหวค่ะ

ภาพจาก : True Inside

ภาพจาก : True Inside

ภาพจาก : True Inside

ภาพจาก : UsaLoveVer ขวัญ อุษามณี