บันเทิง
ฝากไว้ให้คิด "หมอริท" โพสต์ต่อให้ "โตโน่" ว่ายน้ำ 10 ได้เงินพันล้าน หมอ-พยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

ฝากไว้ให้คิด "หมอริท" โพสต์ต่อให้ "โตโน่" ว่ายน้ำ 10 ได้เงินพันล้าน หมอ-พยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม

ฝากไว้ให้คิด

หมอริท ฝากไว้ให้คิด ต่อให้ โตโน่ ภาคิน ว่าย 10 รอบ ได้เงินพันล้าน หมอ-พยาบาลก็เหนื่อยเท่าเดิม แนะควรแก้ที่ต้นเหตุ ให้ผู้มีอำนาจลงมาจัดการเรื่องความเสี่ยง และเวลาในการทำงาน

หลังจากที่ พระเอก นักร้องหนุ่ม "โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์" ทำภารกิจว่ายข้ามโขง รวมระยะทางราว 15 กิโลเมตร เพื่อรับบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือโรงพยาบาลนครพนมและโรงพยาบาลแขวงคำม่วน สปป.ลาว นำไปซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ขาดแคลน โดยสามารถระดมทุนไปได้ 62 ล้านบาท (ข้อมูล ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 23 ต.ค.65)


ซึ่งเรื่องน้องรักของ "โตโน่ ภาคิน" อย่าง "หมอริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช" รุ่นน้องร่วมเวทีเดอะสตาร์ ที่ตอนนี้ก็เป็นคุณหมอเช่นกัน ได้ออกมาให้ความเห็นถึงเรื่องนี้ผ่านทางทวิตเตอร์ โดยระบุว่า


"ยินดีด้ว้ยกับการ #ว่ายน้ำข้ามโขงของพี่ #โตโน่ภาคิน ในวันนี้นะครับที่ปลอดภัย และได้รับเงินบริจาคจำนวนมาก อย่างแรกต้องขอขอบคุณในน้ำใจ หและความเสียสละของพี่ที่มีต่อบุคลากรทางการแพทย์ คนที่พร้อมจะเสียสละเพื่อคนอื่นแบบพี่ ไม่ได้หาได้ง่ายเลย นับถือใจจริงๆ


ในบทสัมภาษณ์หลายครั้งที่พี่พูดว่า ที่พี่มาว่ายน้ำครั้งนี้ เพราะหมอและพยาบาลเค้าเหนื่อยกว่า เสี่ยงกว่าเลยอยากขออนุญาตฝากมุมมองไว้ซักนิดครับ เผื่อพี่อาจจะลืมมองเหตุพวกนี้นะครับ (ไหนๆคนก็สนใจโครงการพี่เยอะแล้ว)

1.ต่อให้พี่ว่ายน้ำข้ามโขงเป็น 10 รอบ ได้เงินบริจาคมากกว่า 1000 ล้านบาท หมอ พยาบาล เค้าก็เหนื่อยเท่าเดิมครับ ขอยกตัวอย่างในฝั่งของหมอนะครับ ระบบสุขภาพของประเทศไทยคือ


ระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า แปลว่า คนไทยจะป่วยยังไงก็มีการรักษารองรับ (ซึ่งจริงๆก็ดีกับคนไทย ในบางมุมนะ เช่น คนจนมีสิทธิ์เข้าถึงการรักษา แต่ข้อเสียก็คือ คนไทยไม่ใส่ใจสุขภาพ เกิดปัญหา เช่น ติดเหล้า ติดบุหรี่ และเกิดปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้คนต้องมาโรงพยาบาลกันเยอะ) ซึ่งทำให้หมอต้องทำงานหนัก แต่ยังได้ค่าตอบแทนเท่าเดิม


ซึ่งทุกวันนี้หมอไทยยังต้องทำงานเกินเวลาตามระเบียบกำหนด ทำให้เกิดภาวะสมองไหล หมอๆก็ออกนอกระบบโรงพยาบาลรัฐกันหมด หมอก็น้อยลง งานก็ยังหนัก ผลิตหมอเท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็วนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ ถึงบอกว่า เงินบริจาคเยอะแค่ไหนก็ไม่ได้ช่วยให้หมอหายเหนื่อยครับ


2. พี่บอกว่าหมอพยาบาลเสี่ยง คำถามคือ ใครปล่อยให้หมอ พยาบาล ทำงานภายใต้ความเสี่ยง? ถ้ารู้ว่าเค้าทำงานแบบเสี่ยงอยู่ ทำไมผู้มีอานาจโดยตรง ถึงมองไม่เห็นและไม่สามารถจัดการปัญหานั้นโดยเร่งด่วนได้ หรืองบประมาณไม่เพียงพอแล้วถ้างบไม่พอจริงๆ ทำไมไม่รายงานขึ้นไป ทำไมต้องรอเงินบริจาค?


ส่วนตัวมองว่าการบริจาคไม่สิ่งไม่ดีนะครับ แต่ที่มา หลักการ จุดประสงค์ของโครงการและการนำเงินไปใช้ต้องชัดเจน รวมถึงควรสนับสนุนการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปในตัวด้วยครับ ถ้าพี่สื่อสารจุดนี้ได้ด้วย คิดว่าคนไม่เห็นด้วยน่าจะน้อยลงนะครับ และทำให้โครงการของพี่ดูมีเหตุสมควรมากขึ้น"


ภาพจาก : ทวิตเตอร์ Ritz Rueangritz S.


ภาพจาก : ทวิตเตอร์ Ritz Rueangritz S.


ภาพจาก : ทวิตเตอร์ Ritz Rueangritz S.


ภาพจาก : อินสตาแกรม ritz_rueangritz


ภาพจาก : อินสตาแกรม ritz_rueangritz


ภาพจาก : อินสตาแกรม balakorn_thai

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH