ข่าวออนไลน์
ไปอีกราย! นักข่าวลาออก เหตุลำบากใจเสนอข่าว "ลุงพล"

ไปอีกราย! นักข่าวลาออก เหตุลำบากใจเสนอข่าว "ลุงพล"

ไปอีกราย! นักข่าวลาออก เหตุลำบากใจเสนอข่าว

โดนกระแสลุงพลเป็นพิษอีกรายแล้ว นักข่าวหนุ่มประกาศกลางเฟซบุคตัวเอง ขอลาออก เพราะทนการรายงานข่าว "ลุงพล" จากคดี "น้องชมพู่" ไม่ไหว เผยผู้ใหญ่เข้าใจ จากกันด้วยดี




จากคดีน้อง “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ หายออกจากบ้านที่อยู่อาศัย ในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ก่อนจะพบเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ โดยที่ผ่านมายังจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ แต่เหตุการณ์กลับ "ออกทะเล" ชนิดกู่ไม่กลับ เนื่องจากสื่อได้เปลี่ยนประเด็นเป็นการเสนอภาพชีวิตของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องสงสัยในคดีการหายตัวไปของน้องชมพู่ และพ่อแม่ของน้องชมพู่ ซึ่งถูกระบุเป็นผู้ต้องสงสัยในคดี จนเรื่องราวบานปลายเพราะสื่อนำเสนอแบบต่อเนื่องยาวนาน สร้างความโด่งดังให้ลุงพล มีแฟนคลับ


ล่าสุด จากกรณีดังกล่าวทำให้หัวหน้าช่างภาพสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง หลังช่องนำเสนอข่าวลุงพล ผู้ต้องสงสัยในคดีการหายตัวไปของน้องชมพู่


ล่าสุด มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกราย ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า


“ยุติบทบาทในฐานะผู้สื่อข่าว”


“เพื่อนหลายคนเห็นโพสต์นี้คงตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น?”


เราต้องบอกก่อนว่า เราทำงานกับทางช่อง ระยะเวลา 1 ปี 2 เดือน เรารู้สึกขอบคุณที่ช่องให้โอกาสเสมอมา ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ดีกับเรา ที่สอนเราหลายๆอย่าง แต่เมื่อเราทำงานมาเรื่อยๆหลายๆอย่าง อาจจะไม่ตรงกับสิ่งที่เราคาดหวังเอาไว้ ทำให้เราไม่สามารถฝืนความรู้สึกตัวเองและเดินต่อต่อไปได้ เราตัดสินใจไปคุยกับพี่ (รอง ผอ.ฝ่ายข่าว) และบอกว่า ”เราอยากพัก” ซึ่งพี่แกก็เคารพการตัดสินใจของเรา


เราใช้เวลาคิดและตัดสินใจ 1 เดือนเศษ ใช้ช่วงเวลาที่เราทำงานอยู่บ้านกกกอกเพื่อติดตามคดีน้องชมพู่ ขณะที่เราอยู่ที่นั่นนานวันเข้า เราตั้งคำถามกับตัวเองต่างๆนานา และ “คำตอบในหัวเรา มันทำให้เราไม่มีความสุข” กับการทำงาน (เราขอไม่ลงรายละเอียด)


ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้ เราไม่สามารถขัดแย้งอะไรได้ ซึ่งทุกครั้งเราต้องก้มหน้าก้มตาทำต่อไปเรื่อยๆ เราลำบากใจหลายอย่าง และที่ลำบากใจไปมากกว่านั้นคือการเข้าถึง “สิทธิส่วนบุคคล” เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลบางอย่าง ตัวเรามองว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่ แม้บางคนเขาจะเต็มใจก็ตาม ถามว่าคนดูได้อะไรจากสิ่งเหล่านั้น ได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ นอกจากได้ดู “ความขัดแย้งกันของเครือญาติ”


อย่างที่เราบอกในโพสต์ก่อนหน้าว่า “เรารับรู้ถึงกระแสของเพื่อนๆกับการต่อว่าสื่อมวลชน” ซึ่งเราไม่มีโอกาสได้อธิบายให้ใครฟังมากมายนัก แต่เราก็ไม่อยากให้เพื่อนเหมารวมสื่อมวลชน อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าสื่อมวลชนก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง ทำงานภายใต้กรอบขององค์กร และการทำงานของแต่ละองค์กรย่อมต่างกัน ฉะนั้นวัฒนธรรมองค์กรนั้นล้วนแตกต่างกันออกไปเช่นกัน ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองในบริบทของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว


สุดท้ายนี้ ในนามของเราเอง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งและเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องนี้ เราขอโทษทุกคนต่อการนำเสนอข่าวที่เกิดขึ้น จนมันนำพาสังคมให้มาถึงจุดนี้ได้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราก็แค่ทรัพยาการบุคคลคนหนึ่ง ไม่สามารถท้วงติงหรือแก้ไขอะไรได้มาก เพราะเมื่อเราอยู่ในระบบ เราก็ต้องทำ ดังนั้นเราจึงขอถอยออกมา เพราะเราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของระบบ..


เราขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาหาเรา และห่วงใยเรา


“จากกันด้วยดี ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านครับ”


พ้นสภาพอย่างเป็นทางการ


Powered by Froala Editor

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH