เศรษฐกิจ
เจาะลึกพลานุภาพแห่ง "ช้อปดีมีคืน" และ "คนละครึ่ง"

เจาะลึกพลานุภาพแห่ง "ช้อปดีมีคืน" และ "คนละครึ่ง"

เจาะลึกพลานุภาพแห่ง

นักวิเคราะห์เศรษฐกิจคาด 'ช้อปดีมีคืน-คนละครึ่ง' แผนกระตุ้นการใช้จ่ายส่งท้ายปี ค้าปลีกไตรมาสสุดท้ายน่าจะขยับได้ในระดับหนึ่ง



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า แรงส่งของมาตรการ ช้อปดีมีคืน และ คนละครึ่ง น่าจะกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในธุรกิจค้าปลีกในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้ในระดับหนึ่ง และทำให้ยอดค้าปลีกในภาพรวมปี 2563 หดตัวลดลงเหลือร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับหากไม่มีมาตรการที่คาดว่าจะหดตัวราวร้อยละ 7.2 YoY ซึ่งผู้ประกอบการค้าปลีกควรเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องของสต๊อกสินค้า การอำนวยความสะดวกในเรื่องของใบกำกับภาษี รวมถึงการเร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อหนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค


ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า มาตรการ ช้อปดีมีคืน น่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บริโภคที่มีรายได้มากกว่า 500,000 บาทต่อปีขึ้นไป หรือรายได้ประมาณ 42,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ซึ่งจากการสำรวจพฤติกรรมพบว่า ผู้บริโภคกลุ่มนี้สนใจที่จะใช้สิทธิจากมาตรการ ดังกล่าว มากกว่าร้อยละ 70.00 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ขณะที่ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยกว่า 500,000 บาทต่อปี ส่วนใหญ่ยังคงกังวลกำลังซื้อในอนาคต และโดยปกติก็เสียภาษีในอัตราที่ไม่สูงมาก จึงยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีเพิ่ม


จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า มาตรการ ช้อปดีมีคืน เป็นโอกาสให้กับบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า ซึ่งรวมถึงร้านค้าและร้านอาหารที่เช่าพื้นที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า (ที่จดทะเบียนอยู่ในระบบและสามารถออกใบกำกับภาษีได้) รวมถึง E-market Place และซูเปอร์มาร์เก็ต ที่น่าจะมีโอกาสเพิ่มยอดขายมากขึ้น โดยสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคน่าจะซื้อเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้แก่ การรับประทานอาหารในร้านอาหาร อุปกรณ์ไอที เช่น Smart Phone, Smart Watch และของใช้จำเป็นส่วนบุคคล


ภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ยังคงอ่อนแรงของผู้บริโภคที่ได้รับแรงกดดันจากวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ยังคงสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการค้าปลีกต่างเร่งปรับตัวและมีการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาสินค้า การสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องของความสะอาดและความปลอดภัยต่อสุขภาพ เป็นต้น


นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ ภาครัฐได้มีการทยอยออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ "คนละครึ่ง" ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อร้านค้าปลีกรายย่อยที่เน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น ร้านธงฟ้า ร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก รวมถึงมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" ที่คาดว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการค้าปลีกที่จดทะเบียนอยู่ในระบบและออกใบกำกับภาษีได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางขึ้นไป ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของธุรกิจค้าปลีกในภาพรวมได้ในระดับหนึ่ง


ทั้งนี้ จากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า มาตรการ "ช้อปดีมีคืน" (จำกัดวงเงินคนละไม่เกิน 30,000 บาท) มีผลต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ


ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า แรงส่งจากมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" และ "คนละครึ่ง"ซึ่งเป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายส่งท้ายปี 2563 นี้ รวมถึงมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อและการใช้จ่ายที่ออกมาก่อนหน้านี้ เช่น มาตรการคนละครึ่ง น่าจะช่วยหนุนภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกทั้งปี ให้หดตัวลดลงเป็นร้อยละ 6.0 เมื่อเทียบกับหากไม่มีมาตรการที่คาดว่าจะหดตัวราวร้อยละ 7.2 YoY ซึ่งผู้ประกอบการค้าปลีกควรเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องของสต๊อกสินค้า การอำนวยความสะดวกในเรื่องของใบกำกับภาษี โดยเฉพาะการจัดการเกี่ยวกับใบกำกับภาษีที่สะดวกและรวดเร็วขึ้น เช่น มีบริการจัดส่งใบกำกับภาษีตามไปให้ถึงที่พักอาศัย หรือเป็นการออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องต่อคิวรอนาน เป็นต้น


นอกจากนี้ ด้วยข้อจำกัดทางด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคบางกลุ่ม รวมถึงผู้บริโภคที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่ยังไม่ได้มีการวางแผนการใช้จ่าย ผู้ประกอบการค้าปลีกก็อาจจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดควบคู่ไปกับมาตรการดังกล่าว เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในกลุ่มสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคให้ความสนใจซื้อ เช่น ร้านอาหารต่างๆ อุปกรณ์ไอที ของใช้จำเป็นส่วนบุคคล เป็นต้น เพื่อนำมาใช้สิทธิในการลดภาษี โดยรูปแบบของการทำการตลาดก็ยังคงให้ความสำคัญกับการลดราคาสินค้า การชูความคุ้มค่าคุ้มราคา และการผ่อนชำระ 0% ที่นานขึ้น เพื่อจูงใจกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี แต่อาจมีฐานรายได้ไม่สูงนัก


Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH