Football
จิ้งจอกดุ! เลสเตอร์ บุกขย้ำลีดส์จมเขี้ยวขึ้นรองจ่าฝูง (มีคลิป)

จิ้งจอกดุ! เลสเตอร์ บุกขย้ำลีดส์จมเขี้ยวขึ้นรองจ่าฝูง (มีคลิป)

ยูริ ตีเลม็องส์ ซัดเบิ้ลพา เลสเตอร์ ซิตี้ บุกเอาชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 4-1 ทำให้ "จิ้งจอกสยาม" เก็บชัย 2 นัดติด มี 15 แต้ม ขยับรั้งรองจ่าฝูง ขณะที่ทัพ "ยูงทอง" มี 10 คะแนน อยู่อันดับที่ 12 ของตารางในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 2 พ.ย. 2563


วันนี้ 3 พฤศจิกายน 2563 เกมพรีเมียร์ลีกในสัปดาห์ที่ 7 ศึกมันเดย์ไนท์ ซึ่งเป็นคู่สุดท้ายของสัปดาห์นี้ ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้


เริ่มเกมมาได้เพียง 3 นาที ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำเร็ว จากจังหวะที่ โรบิน คอช กองหลังเจ้าถิ่นคืนบอลกลับไปให้ อัลล็อง เมซิเย่ร์ ไม่ดี แล้วโดน เจมี่ วาร์ดี้ ฉกมาเล่นได้ ก่อนที่จะล็อกหลบแล้วไหลอลต่อให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้แปลจ่อๆ ส่งบอลเข้าประตูไป เลสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 นาทีที่ 12 เลสเตอร์ มีโอกาสได้ส่องไกล จากจังหวะที่ เจมี่ วาร์ดี้ ส่งบอลต่อให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ได้ซัดนอกกรอบ แต่ไม่ผ่านมือของ อัลล็อง เมซิเย่ร์ ผู้รักษาประตู ลีดส์ พุ่งปัดเอาไว้ได้ ต่อมานาทีที่ 21 ทีมเยือนทำเกมรุกขึ้นมาจากฝั่งขวา โดย ยูริ ตีเลม็องส์ ต่อบอลให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ก่อนที่จะเปิดเข้าไปตรงหน้าปากประตู แล้วเป็น เจมี่ วาร์ดี้ ที่พุ่งตัวโหม่ง แต่ไปติดเซฟของ อัลล็อง เมซิเย่ร์ ปัดออกมาได้ จนไปเข้าทาง ยูริ ตีเลม็องส์ ได้ซ้ำอีกครั้ง ไม่พลาดส่งบอลตุงตาข่ายพา เลสเตอร์ ซิตี้ นำ ลีดส์ ยูไนเต็ด เป็น 2-0 นาทีที่ 37 ทีมเยือนตัดบอลมาเล่นได้ และเป็น ลุค โทมัส ที่ได้ซัด แต่บอลก็ได้ตรงตัว อัลล็อง เมซิเย่ร์ นายด่านเจ้าถิ่นรับเอาไว้ได้แบบสบายๆ จากนั้นหนึ่งนาทีต่อมา ลีดส์ สวนกลับอย่างรวดเร็ว โดย ลุค อายลิ่งส่งบอลทะลุไปให้ แพทริก แบมฟอร์ด ได้จับบอลลง ก่อนที่จะพยายามง้างเท้ายิง แต่บอลก็ไหลยาวจนไปถึงตัวของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับเอาไว้ได้ก่อน จากนั้นต่างฝ่ายต่างพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ แต่บอลส่วนใหญ่อยู่ในแดนกลาง ซึ่งไม่มีจังหวะจะแจ้งลุ้นทำประตู หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0


เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 48 เป็นจังหวะจากลูกเตะมุมของเจ้าบ้าน ซึ่งเล่นกันสั้นๆ ก่อนที่ แจ็ค แฮร์ริสัน จะส่งบอลให้กับ สจ๊วร์ต ดัลลัส ที่เหมือนจะเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่กลับไม่ได้ใครโหม่งโดนบอล จนทำให้บอลย้อนเสียบเสาเข้าประตูไป ช่วยให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ตีไข่แตกไล่ตาม เลสเตอร์ ซิตี้ มา 1-2 นาทีที่ 55 ทีมเจ้าถิ่นมีลุ้นจากจังหวะที่ ปาโบล เอร์นานเดซ ได้ลองส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงและส่ายไปชนเสาอย่างจัง ทำให้ ลีดส์ ชวดได้ประตูเพิ่มอย่างน่าเสียดาย ต่อมานาทีที่ 76 ทีมเยือนทำเกมรุกขึ้นมา โดย เจมส์ แมดดิสัน ผ่านบอลออกไปทางขวาให้ เจงกิซ อุนเดอร์ ได้กระดกบอลส่งต่อไปให้ เจมี่ วาร์ดี้ เข้าฮอตจ่อๆ พา เลสเตอร์ ซิตี้ หนี ลีดส์ ยูไนเต็ด ออกไปเป็น 3-1 นาทีที่ 83 ทีมเยือนได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ เจงกิซ อุนเดอร์ ไหลบอลจากกลางสนามให้กับ เจมี่ วาร์ดี้ หลุดเดียวขึ้นไป แต่ดันยิงหลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้ เลสเตอร์ พลาดได้ประตูเพิ่มเติม นาทีที่ 90+1 มาเตอุสซ์ คลิช ของ ลีดส์ ไปทำฟาวล์ใส่ เจมส์ แมดดิสัน ล้มลงในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสินขอดูภาพ วีเออาร์ แล้วชี้ให้ ทีมเยือนได้จุดโทษ ก่อนที่ ยูริ ตีเลม็องส์ จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด เลสเตอร์ ซิตี้ นำโด่ง 4-1 หลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูได้ หมดเวลาการแข่งขัน ลีดส์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านพ่าย เลสเตอร์ ซิตี้ 1-4 ทำให้ "ยูงทอง" อยู่ที่ 12 ของตาราง มี 10 คะแนน ด้าน "จิ้งจอกสยาม" ขยับรั้งรองจ่าฝูง เก็บได้ 15 แต้ม เฮ 2 นัดติด


11 คนแรกที่ลงสนามเป็นตัวจริง


ลีดส์ ยูไนเต็ด ระบบ (4-1-4-1) : อัลล็อง เมซิเย่ร์ ; ลุค อายลิ่ง, โรบิน คอช, เลียม คูเปอร์, สจ๊วร์ต ดัลลัส (เอซยัน อลิโอสกี้ น.81) ; มาเตอุสซ์ คลิช ; เอลแดร์ คอสต้า, เจมี่ แชคเคิลตัน (เอียน คาร์โล โพเวด้า น.46), ปาโบล เอร์นานเดซ (ไทเลอร์ โรเบิร์ต น.67), แจ็ค แฮร์ริสัน ; แพทริก แบมฟอร์ด


เลสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (3-4-2-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; เจมส์ จัสติน, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, คริสเตียน ฟุคส์ ; มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ยูริ ตีเลม็องส์, นัมปาลิส เมนดี้, ลุค โทมัส ; เดนนิส ปราต (เจมส์ แมดดิสัน น.63), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ (เจงกิซ อุนเดอร์ น.71) ; เจมี่ วาร์ดี้ (เวส มอร์แกน น.85)

Powered by Froala Editor

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH