ทั่วไทย
12-13 พ.ย. 10 จ.ภาคใต้ เสี่ยงน้ำหลาก-น้ำท่วม

12-13 พ.ย. 10 จ.ภาคใต้ เสี่ยงน้ำหลาก-น้ำท่วม

12-13 พ.ย. 10 จ.ภาคใต้ เสี่ยงน้ำหลาก-น้ำท่วม

12-13 พ.ย.นี้ 10 จังหวัดภาคใต้เตรียมตัว! เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมขัง

วันนี้ (12 พ.ย.63) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเตือน เรื่อง เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมขัง โดยระบุว่า


จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ในช่วงวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2563 หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกําลังลงจากพายุเอตาว บริเวณประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนมีกําลังแรง ทําให้ภาคใต้มีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้


กองอํานวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินฝนจากแผนที่คาดการณ์ปริมาณฝน (One Map) พบว่า ในช่วง วันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2563 จะมีฝนตกหนักมากในพื้นที่ภาคใต้ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากบริเวณที่ลาดเชิงเขา รวมทั้งทําให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเกินความจุส่งผลให้น้ำหลาก เอ่อล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำและด้านท้ายน้ำได้ ดังนั้น จึงขอให้ติดตามเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก ในพื้นที่ 10 จังหวัดในภาคใต้


ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดําเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ดังนี้


1. ติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง


2. ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำและแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงบริเวณต่าง ๆ ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมพร้อมในการอพยพและเคลื่อนย้ายสิ่งของได้อย่างทันท่วงที่หากเกิดสถานการณ์น้ำหลาก


3. ปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พร้อมพิจารณา ความเหมาะสมในการระบายน้ำในลําน้ำแม่น้ำ


4. พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 95 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองหาดส้มแป้น จังหวัดระนอง อ่างเก็บน้ำบางวาด จังหวัดภูเก็ต อ่างเก็บน้ำห้วยลึก อ่างเก็บน้ำคลองหยา และอ่างเก็บน้ำคลองแห้ง จังหวัดกระบี่ เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ


5. จัดเจ้าหน้าที่ในการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมด้วยเครื่องจักรเครื่องมือ รวมถึงความพร้อมระบบสื่อสารสํารอง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น กับประชาชน ตลอดจนกําจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำให้สามารถรองรับน้ำฝน และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ


ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH