Football
การกลับมาของแมนฯยู อาจทำให้สู่ยุคแดงเดือดอีกครั้ง!

การกลับมาของแมนฯยู อาจทำให้สู่ยุคแดงเดือดอีกครั้ง!

การกลับมาของแมนฯยู อาจทำให้สู่ยุคแดงเดือดอีกครั้ง!

หลังจากที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอีกครั้ง อาจทำให้ในโลกลูกหนังเราอาจได้เห็น ยุคแดงเดือดครองเมืองอีกครั้ง

เป็นที่ทราบกันว่าในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมาของประวัติศาสตร์สโมสรของทั้ง แมนฯยู และ ลิเวอร์พูล เป็นคู่ปรับตลอดกาลของโลกฟุตบอล ที่รู้จักกันในชื่อของ “แดงเดือด” และเป็นการเจอกันของสองทีมที่ดุเดือดเลือดพล่าน มากที่สุดในเกาะอังกฤษ จนในที่สุดที่ทั้งสองทีมหมดยุคของตัวเองไป ทำให้เข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลง ทั้ง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด




แต่หลังจากนั้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากการเปลี่ยนกุนซือของ สโมสร “หงส์แดง” ลิเวอร์พูลจาก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส มาเป็น เจอร์เก้น คล็อปป์ ในปี 2015 ภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ ทั้งแท็คติก และแผนการเล่นของลิเวอร์พูล เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงการเสริมทัพนักเตะอย่าง ซาดิโอ มาเน่ และ เวอร์จิล ฟานไดจค์ สามารถทำให้ศักยภาพของทีมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกส์ได้ในปี 2018 รวมไปถึงทำลายอาถรรพ์การคว้าแชมป์ลีกสูงสุด หลังจากรอคอยมา 30 ปี



อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกลับตรงกันข้าม ผลงานและฟอร์มการเล่นของทีมน่าเป็นห่วงอย่างมาก ถึงแม้จะแต่งตั้งอดีตนักเตะของทีมอย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ มากู้วิกฤติก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จนกระทั่ง ในฤดูกาลนี้ จากการมาของ บรูโน่ เฟอร์นันเดส ทำให้ทัพ เรดเดวิลส์ ดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น และยังไปสอย กองหน้าฉายา “เอล มาทาดอร์” เอดิสัน คาวานี่ ของปารีส แซ็ง แฌร์แม็ง มาแบบฟรีๆ และดูเหมือนว่าผลงานจะคุ้มค่าจากการลงมาเป็นตัวสำรองในนัดเจอ เซาธ์แฮมตัน จากผลงานที่ตามหลังอยู่ 2-0 กลับทำให้ทัพ “ปีศาจแดง” พลิกกลับมาชนะได้ 3 ประตูต่อ 2 และในนัดล่าสุดสงครามกุหลาบ ระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ลูกทีมของน้า โอเล่ สามารถเค้นฟอร์มได้อย่างสุดยอดหลังจากเปิดสนาม โอลด์แทรฟฟอร์ดถล่ม ทีมยูงทอง ของ บิเอลซ่าไปแบบขาดลอย 6 ประตูต่อ 2 จากผลงานในครั้งทำให้ อดีตกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง รอยคีน ออกมาพูดว่าทีมเก่าของเขามีความสามารถพอ ที่จะเบียดลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้




ไม่แน่ว่า ครั้งนี้อาจจะเป็นการหวนกลับมาอยู่ในยุคแดงเดือดครองเมือง เหมือนยุคของ รอย ฮอดจ์สัน และ เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน ก็เป็นได้ ถ้าหากว่าทั้งสองทีมยังคงรักษาฟอร์มแบบนี้ต่อเนื่องไปได้จนถึงนัดแดงเดือด ที่จะเจอกันในช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้า ก็อาจทำให้เราได้เห็นเกมส์มันส์ๆ เหมือนสมัยก่อนก็เป็นได้ และแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้ ก็คงหนีไม่พ้นสองทีมนี้ที่เบยดลุ้นกันอย่างสนุกแน่นอน


ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH