เลสเตอร์ล่าชัยขึ้นรองฝูงรับเซาธ์แฮมป์ตันขอสานต่อฟอร์มฮอต

วันนี้ ( 16 มกราคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 18 "จิ้งจอกน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ลงทำการแข่งขันเวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

11/01/20 เลสเตอร์ 1-2 เซาธ์แฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)

26/10/19 เซาธ์แฮมป์ตัน 0-9 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

12/01/19 เลสเตอร์ 1-2 เซาธ์แฮมป์ตัน (พรีเมียร์ลีก)

28/11/18 เลสเตอร์ 0-0 เซาธ์แฮมป์ตัน (ลีก คัพ)

25/08/18 ลีกเซาธ์แฮมป์ตัน 1-2 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

เลสเตอร์

09/01/21 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 4-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

03/01/21 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

28/12/20 เสมอ คริสตัล พาเลซ 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

26/12/20 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

20/12/20 ชนะ สเปอร์ส 2-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

เซาธ์แฮมป์ตัน

05/01/21 ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

29/12/20 เสมอ เวสต์แฮม 0-0 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

26/12/20 เสมอ ฟูแล่ม 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

19/12/20 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

16/12/20 เสมอ อาร์เซน่อล 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

ความพร้อมล่าสุด

เลสเตอร์

เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือไอร์แลนด์เหนือพา "สุนัขจิ้งจอก" บดชนะชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1 จากนั้นบุกเอาชนะ สโต๊ค 4-0 ในถ้วยเอฟเอ คัพทำให้ไม่แพ้ใคร 5 นัดในทุกรายการ โดยในลีกรั้งที่ 4 มี 32 แต้มตามจ่าฝูง 4 คะแนน

ความพร้อมเกมนี้ยังคงขาดตัวเจ็บหน้าเดิมอย่าง เดนนิส แพรต กองกลางเพียงคนเดียวเท่านั้น ขณะที่ ริคาร์โด้ เปไรร่า ฟูลแบ็กโปรตุกีสเจ็บโคนขาหนีบยังองทดสอบความฟิตอีกครั้ง

การจัดทัพยังคงยึดแกนหลักขาประจำอย่าง เจมี่ วาร์ดี้, เจมส์ แมดดิสัน, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์, ยูริ ตีเลอมันส์, ทิโมธี กาสตานเญ่, เจมส์ จัสติน และ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล นำทัพ

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; เจมส์ จัสติน, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, ทิโมธี กาสตานเญ่ ; วิลฟรีด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์ ; มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เจมี่ วาร์ดี้

เซาธ์แฮมป์ตัน

ราล์ฟ ฮาเซ่นฮึทเทิ่ล กุนซือชาวออสเตรียพา "นักบุญ" เปิดรังเชือดลิเวอร์พูล 1-0 ทั้งที่ 4 เกมก่อนหน้านี้ไร้ชัยมาตลอดเสมอ 3 แพ้ 1 ทำให้ยังเกาะอยู่อันดับ 7 มี 29 แต้มจาก 17 เกม

ควาพร้อมเกมนี้ต้องชวดใช้งาน แดนนี่ อิงส์ กองหน้าตัวเก่งที่ติดโควิดชวดเล่นต่อจาก ยานนิค เวสเตอร์การ์ด เซนเตอร์แบ็กตัวหลักที่เจ็บเข่า, มูสซ่า เฌเนโป และ เนธาน เร้ดมอนด์ เจ็บกล้ามเนื้อทั้งคู่ นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิต โอริโอล โรเมวกองกลางที่เจ็บน่อง

การจัดทัพจะขยับเอาธีโอ วัลคอตต์ มาล่าตาข่ายคู่กับ เช อดัมส์ แทนอิงส์ ส่วนแกนหลักอย่างแยน เบ็ดนาเร็ก, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, อิบราฮิมา ดิอัลโล่ และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ พร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ; ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์, แยน เบ็ดนาเร็ก, แจ็ค สตีเฟ่นส์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ ; สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง, อิบราฮิมา ดิอัลโล่, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, ย็อง วาเลรี่ ; เช อดัมส์, ธีโอ วัลคอตต์

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

เกมนี้น่าสนุกแน่เมื่อต่างกำลังทำผลงานได้ดีเลสเตอร์ในรังน่าจะครองบอลบุกอาจจะไม่ใช่สไตล์ถนัดแต่ก็ต้องทำส่วนเซาธ์แฮมป์ตันมาแบบเน้นรัดกุมเพียงแต่การที่ขาดอิงส์ไปทำให้แดนหน้าเก็บบอลลำบากแน่แต่ก็มีทีเด็ดลูกนิ่งโดยเฉพาะวอร์ด-เพราส์ที่เจ้าถิ่นต้องระวังให้ดีดูแล้วเกมนี้เปิดแลกหมัดต่อหมัดสนุกแน่แต่ถือหางจิ้งจอกที่เกมรุกแน่นอนและหลากหลายกว่าน่าบดเอาชนะได้

เลสเตอร์ ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1