เสี่ยหมีใจเด็ด!เปิดตัวเลขมหาศาลเชลซีจ่ายชดเชยปลดกุนซือ

"เสี่ยหมี่" เพิ่งประกาศปลด แฟร้งค์ แลมพาร์ด ออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา หลังทีมมีผลงานน่าผิดหวังในพรีเมียร์ลีกแพ้ 5 เกมจาก 8 นัดในพรีเมียร์ลีกหลังสุดหล่นไปรั้งที่ 9 ตามหลังแมนฯ ยูไนเต็ดทีมจ่าฝูงถึง 11 คะแนน

แลมพาร์ดเขามาคุมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่แล้วและทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพาทีมจบอันดับ 4 ในลีกและได้รองแชมป์เอฟเอ คัพทั้งที่ไม่ได้งบเสริมทัพแม้แต่คนเดียว ขณะที่ซีซั่นนี้ทีมลงทุนมหาศาลกว่า 200 ล้านปอนด์ (ราว 7,600 ล้านบาท) แต่กลายเป็นว่าทีมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่ตั้งเป้าเอาไว้

จากการปลด แลมพาร์ด ออกจากตำแหน่งทำให้เชลซีต้องจ่าค่าชดเชยประมาณ 3 ล้านปอนด์ (ราว 122 ล้านบาท) หลังเจ้าตัวมีสัญญาคุมทีมในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงปี 2022

ทำให้นับตั้งแต่ที่ อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์ทีมเมื่อซัมเมอร์ 2003 "สิงห์บลูส์" เสียค่าชดเชยการเปลี่ยนตัวกุนซือและทีมงานเป็นเงินรวมถึง 113.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,650 ล้านบาท)

โดย อันโตนิโอ คอนเต้ และทีมงานของเขาคือกลุ่มที่ได้ค่าชดเชยจาก เชลซี มากที่สุด 26.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1089.88 ล้านบาท) รองลงมาคือ โชเซ่ มูรินโญ่ กับทีมงานที่ได้ค่าชดเชยไป 23.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 900.9 ล้านบาท) เมื่อคราวโดนไล่ออกหนแรกช่วงเดือนธันวาคม 2007

เปิดค่าชดเชยกุนซือที่โดนเชลซีถูกปลดในยุค โรมัน อบราโมวิช (เดอะ ซันไม่ได้รวม แฟร้ง แลมพาร์ด)

- เคลาดิโอ รานิเอรี่ (พฤษภาคม 2004) - 6 ล้านปอนด์ (245 ล้านบาท)

- โชเซ่ มูรินโญ่ (ธันวาคม 2007) - 23.1 ล้านปอนด์ (946 ล้านบาท)

- อัฟราม แกรนท์ (พฤษภาคม 2008) - 5.2 ล้านปอนด์ (213 ล้านบาท)

- หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ (กุมภาพันธ์ 2009) - 12.6 ล้านปอนด์ (516 ล้านบาท)

- คาร์โล อันเชล็อตติ (พฤษภาคม 2011) - 6 ล้านปอนด์ (245 ล้านบาท)

- อังเดร วิลาส โบอาส (มีนาคม 2012) - 12 ล้านปอนด์ (491 ล้านบาท)

- โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ (พฤศจิกายน 2012) - 10.7 ล้านปอนด์ (438.41 ล้านบาท)

- โชเซ่ มูรินโญ่ (ธันวาคม 2015) - 8.3 ล้านปอนด์ (340.07 ล้านบาท)

- อันโตนิโอ คอนเต้ (กรกฏาคม 2018) - 26.6 ล้านปอนด์ (1089.88 ล้านบาท)