กุนโดกันเบิ้ล! แมนซิตี้เฮ10เกมติดนำฝูงลิ่ว ถล่มลิเวอร์พูล4-1 ส่งหงส์แพ้คารัง3เกมติด

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 23 "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ลงทำการ แข่งขันเวลา 23.30 น. ประจำวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564

เริ่มเกมมาทั้งสองทีมพยายามต่อบอลเพื่อลุ้นทำประตู แต่ยังไม่มีทีมใดมีจังหวะแบบจะแจ้ง เกมผ่านไปแล้ว 10 นาที ลิเวอร์พูล ยังเสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 25 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้จังหวะเปิดบอลจากทางด้าขวาไปให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้จังหวะโหม่งเต็มๆ แต่บอลเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 29 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พยายามวางบอลยาวให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่เป็น รูเบน ดิอาส ที่โหม่งสกัดบอลออกมา แต่บอลไปเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ได้จังหวะตะบันยิงแบบไม่จับหน้ากรอบเขตโทษ แต่ยังเป็น เอแดร์ซอน ที่พุ่งปัดบอลข้ามคานออกไปได้

นาทีที่ 36 ราฮีม สเตอร์ลิง ได้จังหวะเลี้ยงบอลเข้าเขตโทษ ก่อนโดน ฟาบินโญ่ สกัดล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่รับหน้าที่ยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 43 ซาดิโอ มาเน่ พยายามเลี้ยงบอลแต่โดน ชูเอา กานเซโล่ สกัดล้มหน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิก ก่อนที่จะเป็น ติอาโก้ อัลคันทาร่า รับหน้าที่ยิงบอลไปแฉลบกำแพงก่อนออกหลังไป

ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0

เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 49 ราฮีม สเตอร์ลิง ได้จังหวะเลี้ยงบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ ก่อนหาจังหวะจ่ายบอลให้ ฟิล โฟเด้น ได้โอกาสยิงโล่งๆ บอลไปติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์ มาเข้าทาง อิลคาย กุนโดกัน ได้จังหวะยิงซ้ำเข้าไป ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ บุกนำ ลิเวอร์พูล 1-0

นาทีที่ 58 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางบอลยาวข้ามฝั่งไปให้ เคอร์ติส โจนส์ เอาบอลลงก่อนพยายามปั้มบอลกับ ชูเอา กานเซโล่ แล้วเป็น เคอร์ติส โจนส์ ที่ได้จังหวะยิงบอลไปแฉลบ จอห์น สโตนส์ หลุดเสาออกไปแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 62 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พยายามวางบอลยาวไปแดนหน้า รูเบน ดิอาส สกัดบอลไม่ดีบอลไปตัว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พยายามเลี้ยงบอลเข้าเขตโทษก่อนโดน รูเบน ดิอาส สกัดล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่รับหน้าที่ยิงไม่พลาด ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอ แมนฯ ซิตี้ 1-1

นาทีที่ 71 จากจังหวะฟรีคิกของทีมเยือน ก่อนเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่เล่นสั้นให้ ฟิล โฟเด้น ได้จังหวะเปิดบอลเข้าไปก่อน จอห์น สโตนส์ จะยิงบอลเข้าประตู แต่เจ้าตัวอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

หลังจากนั้นอีก 2 นาที อลีสซง เบ็คเกอร์ เตะเปิดบอลไม่ดีบอลเข้าทาง ฟิล โฟเด้น ก่อนได้จังหวะเลี้ยงบอลเข้าเขตโทษ แล้วเลือกจ่ายกลับมาให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้ยิงโล่งๆ บอลพุ่งเช็ดใต้คานเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ บุกนำ ลิเวอร์พูล 2-1

นาทีที่ 76 อลีสซง เบ็คเกอร์ เตะเปิดบอลไม่ดีอีกครั้งบอลไปเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้จังหวะเลี้ยงเดี่ยวเข้ามาก่อนชิพบอลไปให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ได้โหม่งสบายๆเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ บุกนำ ลิเวอร์พูล 3-1

นาทีที่ 83 กาเบรียล เชซุส วางบอลยาวข้ามฝั่งไปให้ ฟิล โฟเด้น เอาบอลลงก่อนเลี้ยงตัดเข้ามาในเขตโทษ แล้วตัดสินใจยิงเต็มข้อส่งบอลแสกหน้า อลีสซง เบ็คเกอร์ เข้าประตูไป ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ บุกนำ ลิเวอร์พูล 4-1

ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม ลิเวอร์พูล 4-1 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" เก็บชัยเป็นเกมที่ 10 ติดต่อกัน พร้อมนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ทิ้งห่างแมนน ยุไนเต็ด เป็น 5 คะแนน ขณะที่ "หงส์แดง" พ่ายคารังเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน อยู่อันดับ 4

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล ระบบ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิคาส น.85) ; ติอาโก้ อัลคันทาร่า (เชอร์ดาน ชากิรี่ น.68), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม,เคอร์ติส โจนส์ (เจมส์ มิลเนอร์ น.68); ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แมนฯ ซิตี้ ระบบ (4-3-3) : เอแดร์ซอน ; ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ; แบร์นาร์โด้ ซิลวา, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน ; ราฮีม สเตอร์ลิง,ริยาด มาห์เรซ (กาเบรียล เชซุส น.72), ฟิล โฟเด้น