Football
เมนดี้นำร่อง-เชซุสย้ำชัย! แมนซิตี้บุกอัดเลสเตอร์2-0 เฮ3เกมติด ทิ้งผี17แต้ม

เมนดี้นำร่อง-เชซุสย้ำชัย! แมนซิตี้บุกอัดเลสเตอร์2-0 เฮ3เกมติด ทิ้งผี17แต้ม

เมนดี้นำร่อง-เชซุสย้ำชัย! แมนซิตี้บุกอัดเลสเตอร์2-0 เฮ3เกมติด ทิ้งผี17แต้ม

เบนฌาแม็ง เมนดี้ ควง กาเบรียล เชซุส ซัดคนละตุง พา แมนฯ ซิตี้ บุกอัด เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัย 3 เกมติด มีเพิ่มเป็น 74 คะแนน ทิ้งแมนฯ ยูไนเต็ด 17 แต้ม แต่เล่นมากกว่า 2 นัด ด้าน "จิ้งจอกน้ำเงิน" พ่ายแรกรอบ 4 เกม

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 30 "จิ้งจอกน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงทำการแข่งขันเวลา 23.30 น. ประจำวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2564


เริ่มเกมมาเพียง 5 นาที โรดรี้ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า เตะสกัดออกมาบอลไปเข้าทาง แฟร์นานดินโญ่ ได้จังหวะยิงเต็มข้อส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้า หลัง เซร์คิโอ อเกวโร่ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าและกระโดนหลบทำให้ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เสียจังหวะ


หลังจากนั้นทั้งสองทีมต่างผลัดกันครองบอลแต่ยังไม่มีทีมใดมีจังหวะจบสกอร์เพิ่มเติมได้ เกมผ่านไปแล้ว 15 นาที ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0


นาทีที่ 18 ทิโมธี กาสตานเญ่ เตะสกัดบอลไม่ดีบอลไปติด ริยาด มาห์เรซ ก่อนมาเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้จังหวะยิงแบบต้องจับแต่บอลยังเหินข้ามคานออกหลังไป


นาทีที่ 22 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนเป็น เควิน เดอ บรอยน์ รับหน้าที่ยิงบอลเหินข้ามกำแพงก่อนพุ่งไปชนคาน ก่อนที่กองหลังเจ้าถิ่นจะสกัดบอลออกมาได้


เกมผ่านไปแล้ว 30 นาที ทั้งสองทีมยังหาจังหวะจบสกอร์เพิ่มเติมไม่ได้ ทำให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมออยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0


นาทีที่ 41 กาเบรียล เชซุส เก็บบอลได้ทางด้านขวา ก่อนจ่ายต่อให้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนยิงไปติดเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล บอลมาเข้าทาง เวสลี่ย์ โฟฟาน่า เคลียร์บอลออกมาเข้าทาง โรดรี้ ก่อนส่งต่อให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้จังหวะยิงแต่บอลโค้งหลุดเสาออกไป


นาทีที่ 43 เซร์คิโอ อเกวโร่ ตัดบอลได้ก่อนมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ แทงบอลทะลุช่องต่อไปให้ กาเบรียล เชซุส ได้บอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนได้จังหวะยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกไป


ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใดทำประตุเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขันครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0


เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 48 มาร์ก อัลไบรท์ตัน ได้บอลก่อนเลี้ยงขึ้นมาทางด้านขวา แล้วจ่ายให้ ยูริ ตีเลอมันส์ ได้บอลก่อนตัดสินใจยิงจากหน้าเขตโทษบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ยังเป็น เอแดร์ซอน ที่พุ่งรับบอลเอาไว้ได้


นาทีที่ 51 เจ้าถิ่นได้จังหวะบุก ก่อนเป็น เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ได้บอลก่อนเลี้ยงขึ้นมา แล้วจ่ายออกไปทางด้านซ้ายให้ เจมี่ วาร์ดี้ ได้จังหวะยิงแต่บอลยังไปติดบล็อคของ รูเบน ดิอาส ออกหลังไปได้


นาทีที่ 56 กาเบรียล เชซุส ได้บอลหลุดมาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ได้จังหวะยิงแต่บอลไปติดบล็อคของ ทิโมธี กาสตานเญ่ ออกหลังไป


นาทีที่ 59 เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลต่อให้ ริยาด มาห์เรซ ได้จังหวะยิงบอลไปติดเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล มาเข้าทาง โรดรี้ ได้เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ กองหลังเจ้าถิ่นสกัดบอลมาเข้าทาง เบนฌาแม็ง เมนดี้ ล็อคมาเข้าเท้าขวาก่อนตัดสินใจยิงส่งบอลเข้าประตูไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0


เกมดำเนินถึงนาทีที่ 74 เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลทะลุช่องให้ กาเบรียล เชซุส ได้บอลหลุดขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจ่ายกลับมาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ล็อคบอลก่อนที่จ่ายกลับมาให้ กาเบรียล เชซุส ได้ยิงโล่งๆเข้าไปช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0


ช่วงเวลาที่เหลือหลังจากนั้นไม่มีทีมใด ทำประตูเพิ่มเติมได้ หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัย 3 เกมติด มีเพิ่มเป็น 74 คะแนน ทิ้งห่างแมนฯ ยูไนเต็ด 17 แต้ม แต่ลงเล่นมากกว่า 2 นัด ด้าน "จิ้งจอกน้ำเงิน" พ่ายแรกรอบ 4 เกม อยู่ที่ 3


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


เลสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ; เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, ทิโมธี กาสตานเญ่ ; แดเนียล อมาร์ตีย์ , วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (นามปาลิส เมนดี้ น.83), ยูริ ตีเลอมันส์ ; มาร์ก อัลไบรท์ตัน (ริคาร์โด้ เปเรยร่า น.71) ; อโยเซ่ เปเรซ ; เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (เจมส์ แมดดิสัน น.71), เจมี่ วาร์ดี้


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบบ (4-3-3) : เอแดร์ซอน ; ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เบนฌาแม็ง เมนดี้ ; แฟร์นานดินโญ่, โรดรี้ ; ริยาด มาห์เรซ (เฟร์ราน ตอร์เรส น.78), เควิน เดอ บรอยน์ (ฟิล โฟเด้น น.88) , กาเบรียล เชซุส ; เซร์คิโอ อเกวโร่ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.62)

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH