ศึกนี้แพ้ไม่ได้!แมนยูขอชัยยื้อแชมป์อีกเฮือกรับลิเวอร์พูลต้องชนะลุ้นท็อปโฟร์

วันนี้ ( 2 พฤษภาคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แมตช์เดย์ 34 "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 22.30 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

25/01/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ)

17/01/21 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

19/01/20 ลิเวอร์พูล 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

20/10/19 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

24/02/19 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด

30/04/21 ชนะ โรม่า 6-2 (เหย้า, ยูโรปา ลีก)

25/04/21 เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

18/04/21 ชนะ เบิร์นลี่ย์ 3-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

16/04/21 ชนะ กรานาด้า 2-0 (เหย้า, ยูโรปา ลีก)

11/04/21 ชนะ สเปอร์ส 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

24/04/21 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

20/04/21 เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

14/04/21 เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)

10/04/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

07/04/21 แพ้ เรอัล มาดริด 1-3 (เยือน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก)

ความพร้อมล่าสุด

แมนฯ ยูไนเต็ด

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือนอร์วีเจี้ยนพา "ปีศาจแดง"สะดุดเสมอลีดส์ 0-0 ทำให้ตอนนี้โดนแมนฯ ซิตี้ที่เตะก่อนฉีกหนีไป 13 แต้มจากนั้นแซงถล่ม โรม่า6-2 ใน ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรกเมื่อกลางสัปดาห์ ทำให้ 22 นัดล่าสุดในทุกรายการแพ้แค่นัดเดียว

ความพร้อมเกมนี้ยังหมดสิทธิ์ใช้บริการแข้งเจ็บหน้าเดิมอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หัวหอกฝรั่งเศส กับ ฟิล โจนส์ ปราการหลังอังกฤษเพียงแค่สองคนเท่านั้น

การจัดทัพจะกลับมาใช้ ดีน เฮนเดอร์สัน เฝ้าเสาประตูอีกครั้งหลัง ดาบิด เด เคอา ได้เล่นเกมยุโรป ส่วนตำแหน่งอื่นๆพร้อมจัดทัพใหญ่นำโดย แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา และ เอดิสัน คาวานี่

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ(4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน ; แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ ; สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด ; มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา ; เอดิสัน คาวานี่

ลิเวอร์พูล

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรคมันพา "หงส์แดง" โดนนิวคาสเซิ่ลตีเสมช่วงทดเวลา 1-1 ทำให้เก็บแค่แต้มเดียวรั้งที่ 7 บังคับให้จากนี้สะดุดไม่ได้อีกเมื่อตามหลังเชลซี อันดับ 4 ที่ลงเตะไปแล้วถึง 7 แต้ม

ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งานตัวเจ็บหน้าเดิมที่เป็นเกมรับล้วนๆทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมทั้ง เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์

การจัดทัพน่าจะปรับมาเล่นหน้าสามอีกครั้งโดยยังคงยึด 3 ประสานโมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ทำให้ดิโอโก้ โชต้า หลุดนั่งสำรองเปิดทางให้ เจมส์ มิลเนอร์ มาขันเกมแดนกลาง ส่วนแนวรับถอย ฟาบินโญ่ ไปยืนเซนเตอร์คู่ โอซาน คาบัค เหมือนเดิม

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-3-3) : อลิสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; เจมส์ มิลเนอร์, ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

แม้แมนฯ ยูไนเต็ดจะฟอร์มดีกว่ามากในช่วงนี้แต่หากมองลึกลงไปพวกเขายังเล่นเกมรับไม่ค่อยนิ่งแนวรุกก็ใช้โอกาสค่อนข้างเปลืองเช่นเดียวกับลิเวอร์พูลที่มีปัญหาเดียวกันแต่เกมรุกดูจะอาการหนักกว่าเชื่อว่าเกมนี้"ปีศาจแดง" จะเน้นรัดกุมเป็นหลังปล่อยให้"หงส์แดง" ครองเกมบุกตามสไตล์แต่เกมรุกเจ้าถิ่นไม่น่าจะเล่นง่ายเมื่อจะโดนเพรสเร็วเชื่อว่ารูปเกมน่าจะอึดอัดและมีโอกาสออกเสมอสูง

แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1