แมนยูจัดทัพใหญ่หวังชัยรับลิเวอร์พูลต้องชนะเพื่อลุ้นท็อปโฟร์

วันนี้ ( 13 พฤษภาคม 64 ) ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงทำการแข่งขันเวลา 02.15 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล HD 1 (600)

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

25/01/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ)

17/01/21 ลิเวอร์พูล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

19/01/20 ลิเวอร์พูล 2-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)

20/10/19 แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

24/02/19 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

แมนฯ ยูไนเต็ด

11/05/21 แพ้ เลสเตอร์ 1-2 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

09/05/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

07/05/21 แพ้ โรม่า 2-3 (เยือน, ยูโรปา ลีก)

30/04/21 ชนะ โรม่า 6-2 (เหย้า, ยูโรปา ลีก)

25/04/21 เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 (เยือน, พรีเมียร์ลีก)

ลิเวอร์พูล

08/05/21 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 (เยือน,) พรีเมียร์ลีก)

24/04/21 เสมอ นิวคาสเซิ่ล 1-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

20/04/21 เสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 (เยือน,พรีเมียร์ลีก)

14/04/21 เสมอ เรอัล มาดริด 0-0 (เหย้า, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก)

10/04/21 ชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 (เหย้า, พรีเมียร์ลีก)

ความพร้อมล่าสุด

แมนฯ ยูไนเต็ด

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือชาวนอร์วีเจี้ยนพาแมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เลสเตอร์ คาบ้าน 1-2 ในเกมล่าสุดส่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ให้แมนฯ ซิตี้ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสถานการณ์ในลีกตอนนี้ "ปีศาจแดง" ยังรั้งรองฝูงนำเลสเตอร์อันดับ 3 อยู่ 6 แต้มแถมเตะน้อยกว่า 1 เกม

ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งานแข้งเจ็บหน้าเดิมอย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หัวหอกฝรั่งเศส กับ ฟิล โจนส์ ปราการหลังอังกฤษ รวมทั้ง แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีมที่เจ็บข้อเท้าและมีแนวโน้มว่าจะชวดเกมที่เหลือในลีกซีซั่นนี้ นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิต ดาเนี่ยล เจมส์ ตัวรุกชาวเวลส์

การจัดทัพเชื่อว่าโซลชาจะกลับมาใช้ตัวหลักลงเล่นอีกครั้งหลังเกมล่าสุดส่งสำรองยกชุดโดยเกมรับใช้ เอริก ไบยี่ เล่นเซนเตอร์แบ็กแทน แม็คไกว์ ขณะที่เกมรุกเป็น ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เอดิสัน คาวานี่

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน ; แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เอริก ไบยี่, ลุค ชอว์ ; สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด ; มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา ; เอดิสัน คาวานี่

ลิเวอร์พูล

เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือเยอรมันพา "หงส์แดง" ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุดทำให้ยังพอมีลุ้นท็อปโฟร์อยู่บ้างแต่ดูเลือนลงเหลือเกินเมื่อตามหลังเชลซีอันดับ 4 อยู่ 7 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 2 เกมหากชนะเกมนี้จะลดช่องว่างเหลือ 4 แต้มกับ 3 เกมสุดท้ายขณะที่เชลซีเหลือ 2 เกม

ความพร้อมเกมนี้ยังชวดใช้งานตัวเจ็บหน้าเดิมที่เป็นเกมรับล้วนๆทั้ง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ, โฌเอล มาติป, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมทั้ง โอซาน คาบัค ปราการหลังทีมชาติตุรกีที่เจ็บเพิ่มอีกราย

การจัดทัพน่าจะให้โอกาสรีส วิลเลี่ยมส์ ลงจับคู่เซนเตอร์กับ เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ ต่อไปหลังทำได้ดีในเกมชนะนักบุญ พร้อมใช้ ฟาบินโญ่ คุมแดนกลางร่วมกับ ติอาโก้ และ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ต่อไป ส่วนเกมรุกยังคงใช้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ ดีโอโก้ โชต้า เช่นเคยทำให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ นั่งสำรองอีกนัด

11 คนแรกที่คาดว่าน่าจะลงสนาม

ระบบ (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีส วิลเลี่ยมส์, เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่, ดีโอโก้ โชต้า

True4U ชี้ขาดผลการแข่งขัน

แม้ช่วงหลังแมนฯ ยูไนเต็ดจะฟอร์มดีกว่าแต่หากมองลึกลงไปพวกเขายังเล่นเกมรับไม่ค่อยนิ่งยิ่งมาขาดแม็คไกว์ไปยิ่งน่ามีปัญหาส่วนแนวรุกก็ใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง ขณะที่ลิเวอร์พูลมีปัญหาเดียวกันทั้งเกมรับและเกมรุกแต่เกมรุกดูจะอาการหนักกว่าเชื่อว่าเกมนี้ "ปีศาจแดง" จะเน้นรัดกุมเป็นหลักรอจังหวะโต้กลับเข้าทำปล่อยให้ "หงส์แดง" ครองเกมบุกตามสไตล์แต่เกมรุกเจ้าถิ่นไม่น่าจะเล่นง่ายเมื่อจะโดนเพรสเร็วเชื่อว่ารูปเกมน่าจะอึดอัดและมีโอกาสออกเสมอสูง

แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1