เศรษฐกิจ
ผ่อนลงบ้างแล้ว! ขึ้นเครื่องบินไม่ต้องเว้นที่-ยังไม่เคาะบินต่างประเทศ

ผ่อนลงบ้างแล้ว! ขึ้นเครื่องบินไม่ต้องเว้นที่-ยังไม่เคาะบินต่างประเทศ

ผ่อนลงบ้างแล้ว! ขึ้นเครื่องบินไม่ต้องเว้นที่-ยังไม่เคาะบินต่างประเทศ

กพท.ถกสายการบิน-สนามบิน เตรียมพร้อมเปิดบินระหว่างประเทศ ปลดล็อคไม่เว้นที่นั่ง เสิร์ฟอาหารภาชนะมิดชิด และไม่ต้องเว้นที่นั่ง 3 แถวหลังหากบินไม่เกิน 1 ชม. ยังไม่เคาะวันเปิดบินต่างประเทศ รอประเมินความปลอดภัย





วันนี้ (16 มิ.ย.63) นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. เปิดเผยภายหลังการหารือกับ 10 เส้นทางทั้งในและระหว่างประเทศ 5 ผู้ประกอบการเที่ยวบินส่วนบุคคล (Private jet) และ 4 ผู้ประกอบการสนามบินในไทย ถึง การเปิดบินเส้นทางระหว่างประเทศ และ แนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารเส้นทางการบินระหว่างประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดCOVID-19 ซึ่งเบื้องต้น กพท.จะจัดใช้มาตรการตามระเบียบข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอเคโอ อาทิ ข้อกำหนดสายการบินไม่ต้องเว้นที่นั่ง แต่ต้องเข้มงวดเรื่องระบบกรองอากาศ รวมทั้งเข้มงวดผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากตลอดการเดินทาง


ขณะเดียวกัน มีประเด็นที่สายการบินยังกังวล คือ เรื่อของบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน ในเส้นทางที่ต้องทำการบินเกิน 2 ชั่วโมง โดย กพท. อนุญาตให้สายการบินสามารถให้บริการอาหารและเครื่องดื่มได้ แต่ต้องจัดเสิร์ฟภายในภาชนะปิด เพื่อลดการสัมผัสระหว่างลูกเรือ และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังกำหนดให้เสิร์ฟภายหลังทำการบินไปแล้ว 2 ชั่วโมง


พร้อมกันนี้ กพท.ยังเตรียมข้อกำหนดในเรื่องของการสำรองที่นั่ง 3 แถวหลังสุดท้ายด้านใดด้านหนึ่งของอากาศยานไว้สำหรับแยกกักผู้ป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยเพื่อเฝ้าสังเกตอาการและป้องกันการแพร่กระจายของโรค ซึ่งในการประชุมได้ข้อยุติอนุมัติในหลักการกำหนดหากบินเพียง 1 ชั่วโมง อาจไม่ต้องจัดสำรองพื้นที่ดังกล่าว รวมทั้งสายการบินสามารถประเมินความเสี่ยงของแต่ประเทศ เพื่อพิจารณาสำรองที่นั่งได้


ส่วนประเด็นของการกำหนดวันอนุญาตทำการบินเส้นทางระหว่างประเทศ กพท.ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีการประกาศอนุญาตทำการบินในวันที่ 1 ก.ค.นี้หรือไม่ เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอนุญาตทำการบินในวันที่ 1 ก.ค.นี้หรือไม่ ให้กระทรวงสาธารณะประเมินความปลอดภัย และเจรจาจับคู่ประเทศก่อน


ทั้งนี้ทางสายการบินประเมินว่าโหลดแฟกเตอร์ หรืออัตราบรรทุกผู้โดยสาร อยู่ที่ 77% จึงจะคุ้ม หากจะกำหนดให้เว้นระยะห่าง เหลือที่นั่ง 70% ก็จะทำให้สายการบินขาดทุน ไม่คุ้มต่อการเปิดบิน


สำหรับสถานการณ์การบินในปีนี้ กพท.ประเมินว่าจะมีปริมาณผู้โดยสารลดลงราว 70% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีผู้โดยสารปิดตัวเลขอยู่ราว 165 ล้านคน โดย กพท.ประเมินว่าในเดือน ก.ย.นี้ น่าจะเริ่มเห็นการเดินทางของเส้นทางบินระหว่างประเทศกลับมาเปิดให้บริการ เพราะต่างประเทศเริ่มทยอยประกาศเปิดประเทศบ้างแล้ว


นอกจากนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ยังได้ออกประกาศผ่อนคลายมาตรการให้บริการผู้โดยสารภายในประเทศ


1.ยกเลิกข้อความ ข้อ 2 (1) ประกาศแนวปฏิบัติเมื่อวันที่ 26 เม.ย.63 เรื่องการจำกัดจำนวนที่นั่งที่จะให้บริการบนอากาศยาน โดยการจำหน่ายบัตรโดยสารจะต้องคำนึงถึงการจัดที่นั่งโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ที่นั่งโดยสารระหว่างผู้โดยสารแต่ละคน


2.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศตรวจสอบและดำเนินการบำรุงรักษาระบบหมุนเวียนอากาศภายในอากาศยาน และเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูงตามกำหนดระยะเวลาที่ระบุในคู่มือผู้ผลิต


3.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศติดตามดูแลให้ผู้โดยสารทุกคนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่บนอากาศยาน


4.ให้มีการแจ้งเตือนผู้โดยสารให้รับทราบและปฏิบัติตามข้อปฏิบัติและมาตรการทางสาธารณสุขในระหว่างการเดินทาง และให้ทราบว่าการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจะมีความผิดและอาจได้รับโทษตามกฎหมายว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ


โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.63 เป็นต้นไป

Powered by Froala Editor

ข่าวที่คุณอาจสนใจ
TOP NEWS
  • TODAY
  • WEEK
  • MONTH