จากฉายาคนไม่มีข่าว "แต้ว" ชีวิตพลิกทำอะไรก็ถูกวิจารณ์ น้ำตาไหลพูดถึงคุณพ่อ

นางเอกสาวเจ้าแม่ดราม่าอีกคนของวงการบันเทิง ที่ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไรก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอด ล่าสุด แต้ว ณฐพร เปิดใจถึงกระแสดราม่า ที่ทำอะไรก็ตกเป็นข่าวผ่าน WOODY FM

โดยสาว "แต้ว ณฐพร" เผยว่าก่อนหน้านี้ตนเองได้ฉายาว่า เป็นคนที่ไม่มีข่าวเลย แต่อยู่ๆเป็นอะไรไม่รู้ พลิกจากหน้ามือไปเป็นหลังมือ อะไรก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปหมด ซึ่งทุกอย่างที่เอาไปใส่ในโซเชียลมีเดียคือการที่เรากดโพสต์ของเราเองต้องรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้ นและยอมรับถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

เผยต่อว่าบางครั้งอาจจะมีคำพูดที่คนบอกว่า เจ็บจังเลย แต่ตนเองเข้าใจว่า เขาไม่ได้รู้จักเราในทุกมิติ เพราะฉะนั้นจึงไม่ผิดที่เขาจะมองเห็นแค่บางมุม และตัดสินเราไปบ้าง จึงรู้สึกว่า โอเคไม่เข้าใจไม่เป็นไร เพราะ คนรอบข้างแต้วโอเค ซึ่งการที่ตนเองโพสต์คลิปเต้นหรือชุดว่ายน้ำในอินสตาแกรม เป็นเหมือนไดอารี่ที่สามารถกลับมาดูได้ว่า เราไปไหนทำอะไรมาบ้างเท่านั้น

ส่วนเรื่องความรักกับ "ไฮโซณัย ประณัย" สาว "แต้ว" เผยว่า ส่วนตัวจะเป็นค่อนข้างแมนมาก ไม่อ่อนแอ ทั้งกับครอบครัวและญาติพี่น้อง แต่พออยู่กับ "ไฮโซณัย" ทำให้เรารู้สึกตัวเล็กๆ ลง และบอบบาง เนื่องจาก เขามีความจริงใจอะไรบางอย่าง ซึ่งความรักครั้งนี้ตนเองแฮปปี้มาก จนเรารู้สึกว่า เราอยากเก็บความรู้สึกนี้ไว้ เนื่องจาก ชีวิตที่ผ่านไม่มีอะไรยั้งยืน แม้แต่เรื่องคุณพ่อจึงอยากเก็บมันเอาไว้ จึงตัดสินใจเขียนไดอารี่ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน

เรื่องที่หนักที่สุดในชีวิต "แต้ว" เปิดใจว่าตัวเองเป็นโรคแพนิค ต่อเมื่อรู้สึกไม่โอเคกับสภาพร่างกาย อย่างเช่น หนาวเกินไป ปวดท้องที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ กระทั่งอยู่ไม่ติด และรู้สึกว่า เราไม่ควรอยู่ตรงนี้เพราะเป็นที่ไม่ปลอดภัย แม้ว่าร่างกายข้างนอกจะปกติก็ตาม แต่ข้างในรู้สึกแย่

เป็นโรคแพนิคมาประมาณ 4-5 ปีแล้ว ซึ่งครั้งแรกเกิดขึ้นขณะอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจาก ตนเองพยายามที่จะเฟอร์เฟ็ก อยู่ดีๆก็ปวดท้องไม่มีสาเหตุ และลำไส้แปรปรวน และรู้สึกกลัวไปหมด จะฆ่าอาการแพนิคได้ก็ต่อเมื่อมียา จึงต้องพกยาโรคแพนิคไปทุกที่ แต่ก็มีเป้าหมายในตัวเองจะใช้ชีวิตโดยไม่เพิ่งยาให้ได้ จึงค่อยๆฝึกลมหายใจ ลดทานยาลง และเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง

ล่าสุดที่ตัวเองเป็นแพนิคเกิดขึ้นที่ประเทศเกาหลี จนคุณพ่อต้องบินจากกรุงเทพ มาหาที่เกาหลีเพื่อมากอด ซึ่งการกอดเป็นเกาะเหมือนเขาดูดอะไรบางอย่างออกจากเราและสามารถเปลี่ยนทุกอย่างได้ ยอมรับตอนนี้คิดถึงคุณพ่อมาก และทุกเช้ายังชงกาแฟให้ท่านทานอยู่ แม้คุณพ่อจะเสียชีวิตไปแล้ว

ก่อนจะเผยเรื่องที่ต้องทำให้เสียน้ำตาอีกครั้ง "แต้ว" เผยว่าช่วงก่อนที่คุณพ่อเสีย คือช่วงโควิด ได้ตื่นมาเจอกัน ได้ชงกาแฟให้คุณพ่อ คุณแม่ จนคุณพ่อเกิดอุบัติเหตุ บอกต่อว่าวันนั้น ตัว "แต้ว" เองถ่ายโฆษณาอยู่ จนผจก.เดินมาบอกว่าเกิดเรื่องอะไร รับว่าสั่น ตัวชา ไปโรงพยาบาลโดยที่ไม่รู้ว่ามันแย่ขนาดไหน เห็นคุณพ่อทรมาน

บอกต่อว่าไม่ร้องไห้เลย เพราะต้องมีสติมากๆ ต้องจัดการเรื่องรักษาคุณพ่อ อยู่แบบนั้นกันเกือบ 20 วัน ต้องมาตัดสินใจวินาที ต่อวินาที "แต้ว" เผยต่อว่าจะไม่ยอมให้พ่อเจ็บ ถ้าเขาจะไปแล้วจะไม่ทำให้เขาทรมาน "แต้ว" โอเค ซึ่งแม่เองก็ค่อนข้างช็อกกับสิ่งที่ "แต้ว" พูดออกไป ว่าทำไมคิดอย่างนั้น แต่ว่ากับคนคนนึงที่ต้องต่อสู้กับความทรมาน เราไม่อยากให้พ่ออยู่แบบนั้นสักวินาทีเดียว สุดท้ายก็ค่อยๆ คุยแล้วยอมรับกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็เกิด จนมาถึงวันสุดท้ายวันธรรมดาวันนึงที่เราเก็บทุกอย่าง เก็บบรรยากาศทุกอย่าง

เผยทั้งน้ำตาว่าทุกวันนี้ ในทุกเช้า "แต้ว" ยังชงกาแฟให้พ่ออยู่ ก็มีคุยกัน คุยในใจ ส่วนคุณแม่เข้มแข็งมาก เป็นกำลังใจให้กัน ใครไม่ไหวก็กอดกัน คุณแม่เป็นทุกอย่างตอนนั้น แม่ยังชอบพูดอีกว่าเหลือกัน 2 คนแล้วนะ ตั้งแต่วันนี้จนถึงต่อไป เหลือกันแค่นี้ มันค่อนข้างกลัวเหมือนกัน ถ้าพูดถึงแล้วจะเป็นอะไรประมาณนี้ (น้ำตาไหล)